วันนี้ (25 มีนาคม) ที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จังหวัดพิจิตร พรรคพลังประชารัฐจัดปราศรัยใหญ่ นำโดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค, วิรัช รัตนเศรษฐ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กรรมการบริหารพรรค, วราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบายและฝ่ายอำนวยการพรรค และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส. พะเยา ในฐานะประธานภาคเหนือ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงภายใต้นโยบาย ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่’
พล.อ. ประวิตร กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวพิจิตร พรรคพลังประชารัฐได้คัดสรรคนดี คนเก่ง ที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน เพื่อมาพัฒนาแก้ไขปัญหาให้กับชาวพิจิตรทุกคน ตนเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากเห็นจังหวัดพิจิตรเจริญขึ้น ดังนั้นจึงต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครทั้ง 3 คนให้มาทำงานเพื่อทุกคนที่นี่
“พรรคพลังประชารัฐคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทุกข้อของเราทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรประชารัฐ การดูแลผู้สูงอายุ-สตรีมีครรภ์ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้าให้มีความเท่าเทียม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม”
พล.อ. ประวิตร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาตนได้แก้ปัญหาน้ำแล้ง-น้ำท่วม จะเห็นได้ว่าไม่มีปัญหาภัยแล้งอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีเราไม่มีแล้งอีกต่อไป และเมื่อมีเราต้องมีที่ทำกินให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน เราจะดูแลทุกคนอย่างต่อเนื่อง 4 ปีที่ผ่านมาเราก็ดูแลมาแล้ว แต่ยังไม่ครบทั้ง 77 จังหวัด เราจึงกลับเข้ามาสานต่อให้ครบทั่วประเทศให้ได้ ในส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ-อาชญากรรมออนไลน์ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที
“เราขออาสานำความรักและความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติ หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ความก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข และสันติภาพเกิดขึ้น มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น”
สำหรับบรรยากาศภายในงาน ทีมผู้จัดงานมีการเตรียมที่นั่งรองรับประชาชนประมาณ 7,000 ที่นั่ง โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยเต็มพื้นที่ นอกจากนี้โดยรอบบริเวณสถานที่จัดงานมีการตั้งป้ายหาเสียงเกี่ยวกับนโยบายสานต่อบัตรประชารัฐ ป้อม 700 เพิ่มเงิน 700 บาทต่อเดือน รวมถึงป้ายแนะนำผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดพิจิตรทั้ง 3 เขตเรียงต่อกันเป็นจำนวนมากประมาณ 160 ป้าย