แสงแห่งความหวังในการกลับมาของ เอ็มมา ราดูคานู

นับตั้งแต่คว้าแชมป์เทนนิสยูเอสโอเพนเมื่อปี 2021 เป็นต้นมา เอ็มมา ราดูคานู นักเทนนิสสาวน้อยมหัศจรรย์จากสหราชอาณาจักร ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์เทนนิสรายการใดได้เลยจวบจนปัจจุบัน และนั่นทำให้อันดับโลกของเธอร่วงลงไปรั้งมือ 77 ของโลกในตอนนี้

เรื่องน่าเศร้าไปกว่านั้นคือ แทบจะตลอดปี 2022 ที่ผ่านมา ราดูคานูทำผลงานได้น่าผิดหวังสุดๆ เพราะเธอไม่แม้แต่จะสามารถเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเทนนิสหญิงรายการใดได้เลย

โดยผลงานที่ดีที่สุดของเธอเมื่อปีก่อนคือ การเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ เทนนิสฮานาแบงก์โคเรียโอเพน ก่อนจะขอถอนตัวในเซ็ตที่ 3 ระหว่างแข่งขันกับ เยเลนา ออสตาเปนโก นักเทนนิสชาวลัตเวีย ขณะที่เสมอกันอยู่ 1-1 เซ็ต ส่วนผลงานรองลงมาคือ การเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศการแข่งขันเทนนิสได้อีก 2 รายการ คือ รายการปอร์สเชเทนนิสกรังด์ปรีซ์ที่เยอรมนี และเทนนิสซิติโอเพนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา

ผลงานของเธอในปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่า ‘ล้มเหลว’ อย่างเต็มปากเต็มคำ

แน่นอนว่าราดูคานูอาจไม่ต้องรับผิดทั้งหมดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง และยังมีการเปลี่ยนโค้ชบ่อยเป็นว่าเล่น ซึ่งปัจจัยทั้งหมดอาจส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของเธอไม่สม่ำเสมอได้

มาในปี 2023 ราดูคานูลงเล่นไปแล้ว 3 รายการ ไล่ตั้งแต่เอเอสบีคลาสสิกที่ออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งทำได้แค่จอดป้ายที่รอบ 2 ด้วยการพ่ายต่อ วิกตอเรีย คุซโมวา จากสโลวาเกีย ต่อด้วยศึกออสเตรเลียนโอเพน แกรนด์สแลมแรกของปี เธอก็จบที่รอบ 2 เช่นกัน หลังพ่ายต่อ โคโค กอฟฟ์ นักเทนนิสมือ 7 ของรายการจากสหรัฐอเมริกา

แต่ในรายการระดับมาสเตอร์ WTA1000 ที่กำลังแข่งขันอยู่อย่างบีเอ็นพีพาริบาสโอเพน หรือที่รู้จักกันในนามอินเดียนเวลส์มาสเตอร์ส ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ดูเหมือนว่าเราจะได้เห็น เอ็มมา ราดูคานู ที่แฟนเทนนิสต้องการจะเห็นอีกครั้ง

ราดูคานูออกสตาร์ทในอินเดียนเวลส์ด้วยการต้องเล่นรอบแรก เพราะไม่ใช่มือวาง เธอต้องเจอกับ ดังกา โควินิช จากมอนเตเนโกร มืออันดับ 62 ของโลก ในรอบแรก และแม้จะอันดับโลกดีว่าเธอ แต่ราดูคานูก็เอาชนะมาได้ 2 เซ็ตรวด สกอร์ 6-2 และ 6-3

ในรอบที่ 2 ราดูคานูต้องพบกับ มักดา ลิเน็ตต์ นักเทนนิสโปแลนด์ มือ 20 ของรายการ และมือ 21 ของโลก แบบเป็นรองสุดกู่ ทั้งเรื่องของสภาพร่างกายและอันดับโลก แต่ราดูคานูก็เอาชนะมาได้อีกครั้ง 2 เซ็ตรวด สกอร์ 7-6 (ไทเบรก 7-3) และ 6-2

ก่อนที่ในรอบ 3 เมื่อคืนวันจันทร์ต่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ราดูคานูสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งด้วยการล้ม เบียทริซ ฮัดดัด ไมอา นักเทนนิสมือ 13 ของโลกและของรายการจากบราซิล 2-1 เซ็ต สกอร์ 6-1, 2-6 และ 6-4 ผ่านเข้ารอบ 4 เป็นครั้งแรกของปีนี้ได้สำเร็จ และนับเป็นครั้งแรกที่เธอสามารถชนะมือท็อป 20 ของโลกได้ตั้งแต่การคว้าแชมป์ยูเอสโอเพนเมื่อปี 2021

This is what it means ❤️@EmmaRaducanu | #TennisParadise pic.twitter.com/KrpIrHhoXz

— BNP Paribas Open (@BNPPARIBASOPEN) March 13, 2023

วินาทีหลังจาก เอ็มมา ราดูคานู เอาชนะ เบียทริซ ฮัดดัด ไมอา

แน่นอนว่าการเข้ารอบ 4 ในเทนนิสมาสเตอร์ 1000 อาจไม่ใช่ความสำเร็จยิ่งใหญ่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ราดูคานูเคยทำได้อย่างการคว้าแชมป์ยูเอสโอเพน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอไม่ได้โชว์ฟอร์มดีในการแข่งขันระดับนี้มานานมากแล้ว

และแน่นอนเช่นกันว่าการเข้ารอบ 4 ของเทนนิสอินเดียนเวลส์มาสเตอร์สก็ไม่ได้การันตีว่าเธอจะสามารถกลับมาเป็น เอ็มมา ราดูคานู ที่คว้าแชมป์เทนนิสยูเอสโอเพน แต่การเดินทางมาถึงรอบ 3 ในหนนี้ของเธอก็มีสัญญาณหลายอย่างให้มองในแง่ดีได้เช่นกัน

“ข้อมือของฉันไม่ได้หายปวดอย่างสมบูรณ์ ฉันต้องกัดฟันเล็กน้อยและเป็นเรื่องดีที่ยังสามารถเอาชนะการแข่งขันในระดับนี้ได้ แม้จะมีความท้าทายในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม” นักหวดวัย 20 ปีกล่าว หลังเอาชนะ มักดา ลิเน็ตต์ ในรอบที่ 2

อาการบาดเจ็บที่ข้อมือของเธอเป็นปัญหาใหญ่มาตลอดฤดูกาลที่แล้ว และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ฟอร์มของเธอไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

นอกจากปัญหาที่ข้อมือแล้ว ราดูคานูยังได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าก่อนการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม ออสเตรเลียนโอเพน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงตกรอบไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปลายเดือนก่อนราดูคานูก็มีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ทำให้เธอต้องถอนตัวจากการแข่งขันเทนนิสออสตินโอเพนไปอีกรายการ

รายงานระบุว่า ก่อนการแข่งขันรอบแรกกับ ดังกา โควินิช เธอยังมีอาการไข้รบกวนอยู่เลยด้วยซ้ำ

และทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่ราดูคานูกลับเอาชนะนักเทนนิสที่อันดับโลกดีกว่าเธอได้ถึง 3 แมตช์ติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงแรงใจและสมาธิที่มุ่งมั่นอย่างมาก

โดยเฉพาะในแมตช์รอบที่ 3 กับฮัดดัด ไมอา เกมนี้ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย ราดูคานูต้องเจอกับแต้มที่ยากและสถานการณ์ที่กดดันเกือบทั้งแมตช์ ยิ่งในเซ็ตสุดท้ายจังหวะที่เธอได้โอกาสเบรกเกมเสิร์ฟของนักหวดวัย 26 ปีจากบราซิล ขณะที่เกมเสมอกัน 3-3 เธอเล่นอย่างมั่นใจและทำได้สำเร็จ

ผลงานที่ดีขึ้นของเธออาจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเกื้อหนุนอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นคือการทำหน้าที่ของ เซบาสเตียน ซัชส์ โค้ชคนใหม่ของราดูคานู ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน ดิมิทรี ทูร์ซูนอฟ โค้ชคนเก่าที่ตัดสินใจแยกทางกับเธอเมื่อจบฤดูกาล 2022

เซบาสเตียน ซัชส์ โค้ชคนใหม่ของราดูคานู

ซัชส์เคยทำงานกับอดีตดาวดังอย่าง เบลินดา เบนซิช นักเทนนิสชาวสวิสมือวางอันดับ 9 ของโลกคนปัจจุบัน และยังเคยทำงานด้านการพัฒนาทักษะเทนนิสกับสมาคมเทนนิสเยอรมนีด้วย

ราดูคานูส่งสัญญาณบวกในการทำงานกับซัชส์ โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโค้ชคนล่าสุดคนนี้ว่า “ฉันรู้สึกดีกับวิธีการทำงานกับทีมของฉัน ความรู้สึกมันไม่ได้เอ่อล้นหรือผิดหวังจนเกินไป มันเป็นความรู้สึกที่พอดี และฉันรู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงถึง 5 คนในรอบ 2 ปี ย่อมส่งผลต่อฟอร์มการเล่นในสนามของเธออยู่แล้วไม่มากก็น้อย และการได้โค้ชที่เธอจะสามารถทำงานด้วยอย่างลงตัวได้นั้นก็น่าจะส่งผลดีในระยะยาวต่อฟอร์มการเล่นของเธออย่างแน่นอน

อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจและน่าจะส่งผลต่อการจัดการฟอร์มการเล่นของเธอในระยะยาวอาจเป็นคำแนะนำของ จูรี เมอร์เรย์ มารดาของ แอนดี เมอร์เรย์ ที่แนะแนวราดูคานูเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นนักเทนนิสของเธอด้วยก็ได้

มารดาของอดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกฝ่ายชาย ผู้คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งสุดท้ายให้กับสหราชอาณาจักร ก่อนที่ราดูคานูจะได้แชมป์ยูเอสโอเพน กล่าวว่า “ฉันคิดว่าเธอเป็นนักกีฬาอายุน้อยที่ยอดเยี่ยม หัวฉลาดมาก เธอรักเทนนิส เธออ่านเกมได้ดี

“ฉันคิดว่าเมื่อคุณยังเด็ก การจัดการตารางงานอาจจะค่อนข้างยาก เทนนิสเป็นกีฬาที่ต้องการเดินทางประมาณ 10 เดือนครึ่งใน 1 ปี เมื่ออายุ 20 ปี แล้วทั้งทีมของคุณเป็นผู้ชาย และยังเป็นผู้ชายที่มีอายุค่อนข้างมาก ฉันคิดว่าคุณจะต้องพลาดการเข้าสังคม ซึ่งเพื่อน ๆ ของคุณส่วนใหญ่กำลังเป็นนักเรียน พวกเขากำลังเรียนรู้ชีวิตและกำลังปาร์ตี้กัน

“นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องแลกมาก ฉันหวังว่าสปอตไลต์จะไม่ส่องไปที่เธอมากเกินไป เพื่อที่จะให้เธอสามารถพัฒนาอย่างสงบ และไม่ถูกกดดันอย่างที่เธอต้องเจอ”

และถึงแม้จะราดูคานูจะเคยยืนยันว่าเธอไม่จำเป็นต้องมีโค้ชผู้หญิง แต่อดีตกัปตันทีมบิลลีจีนคิงคัพของสหราชอาณาจักรก็แนะนำว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ควรจะมีผู้หญิงอยู่ในทีมของราดูคานู เนื่องจากบางเรื่องทีมงานผู้ชายไม่อาจจะเข้าใจผู้หญิงได้

จูดี เมอร์เรย์ กล่าวต่อว่า “การมีเพื่อนผู้หญิงอยู่รอบๆ และมีผู้หญิงในทีมของคุณในกรณีที่คุณเป็นผู้เล่นหญิง ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้หญิงก็เคยเป็นเด็กผู้หญิงมาก่อน ดังนั้นพวกเธอจึงเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ทั้งหมดที่ผู้หญิงต้องเผชิญ

“ในดับเบิลยูทีเอทัวร์มีผู้จัดการด้านไลฟ์สไตล์ผู้หญิง ซึ่งผู้เล่นสามารถพูดคุยด้วยได้อย่างมั่นใจเกี่ยวกับบางสิ่ง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีอะไรทดแทนการมี ‘คนของคุณเอง’ อยู่ในทีมได้

“เมื่อคุณต้องลงทุนมากในการเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับทัวร์ทุกสัปดาห์ ฉันคิดว่าการมีเทรนเนอร์ผู้หญิงหรือนักกายภาพหญิงที่เข้าใจวิธีการทำงานของร่างกายผู้หญิงอย่างแท้จริงนั้นมีประโยชน์ และนั่นไม่ได้หมายถึงแค่ราดูคานูคนเดียวเท่านั้น ฉันหมายถึงนักเทนนิสหญิงทุกคนด้วย”

ในช่วงที่ทุกอย่างกำลังเข้าทางและไปได้สวยเช่นนี้ ราดูคานูจำเป็นต้องค่อยๆ ตักตวงความมั่นใจที่หายไปตลอด 1 ปีเต็มกลับมาให้ได้ทีละน้อย และคำแนะนำเหล่านี้หากนำไปปรับใช้ดีๆ ก็อาจส่งผลในแง่บวกด้านสภาพจิตใจมหาศาลเช่นกัน

กับฟอร์มการเล่นในอินเดียนเวลส์มาสเตอร์ส 3 รอบที่ผ่านมาของนักเทนนิสหญิงวัย 20 ปี ถือว่ามาถูกทาง และพอจะให้เราได้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่จะทำให้เธอกลับไปอยู่ในฟอร์มที่คู่ควรอีกครั้ง

ที่เหลือหลังจากนี้เธอก็แค่ต้องก้าวต่อไป เหมือนกับคำพูดที่โด่งดังว่า

ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ในทุกวัน แต่ขอให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

“Progress not perfection.”

อ้างอิง: