วานนี้ (27 กุมภาพันธ์) ทำเนียบขาวประกาศให้เวลาหน่วยงานในสังกัดรัฐบาลกลาง 30 วัน ในการลบแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากโทรศัพท์และระบบของหน่วยงานรัฐทั้งหมด และห้ามให้มีการรับส่งข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตในแอปพลิเคชันดังกล่าว เพื่อรักษาข้อมูลของรัฐบาลให้ปลอดภัย
โดยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สภาคองเกรสได้มีการลงมติห้ามพนักงานของรัฐบาลกลางใช้แอปพลิเคชัน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ และให้เวลา 60 วัน แก่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการออกคำสั่งต่อหน่วยงานต่างๆ โดยการลงมติครั้งนี้เป็นการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ในการปราบปรามบริษัทจีน ท่ามกลางความวิตกกังวลในประเด็นด้านความมั่นคงว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสอดแนม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการแบนแอปพลิเคชันดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันที่เป็นประชาชนคนทั่วไปกว่า 100 ล้านคนที่ใช้งาน TikTok แต่กลับกลายเป็นการเพิ่มกระแสให้กับการเรียกร้องให้แบนแอปพลิเคชันโดยสิ้นเชิง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดเหตุบอลลูนจีนลอยอยู่เหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดกระแสความกังวลด้านความมั่นคงของชาติพุ่งสูงขึ้น
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ สอดคล้องกับการดำเนินการของรัฐบาลแคนาดา ซึ่งได้ประกาศห้ามใช้ TikTok บนอุปกรณ์ที่ออกโดยรัฐบาลวานนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างแคนาดาและจีนมีความตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งทางสหภาพยุโรปก็ยังมีคำสั่งจากสถาบันที่กำหนดนโยบายที่ใหญ่ที่สุดถึงสองแห่งให้ห้ามใช้ TikTok บนโทรศัพท์ของพนักงาน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
แฟ้มภาพ: XanderSt Via Shutterstock
อ้างอิง: