ในวัย 47 ย่างเข้าสู่ปีที่ 48 ของโปรกอล์ฟผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอดีตอันเกรียงไกรอย่าง ไทเกอร์ วูดส์ เขาเลือกที่จะประกาศคืนสังเวียนอีกครั้ง ในการแข่งขันกอล์ฟรายการเจเนซิส อินวิเตชันแนล ที่จะลงแข่งขันกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้
‘พญาเสือ’ เคยสร้างตำนานหลังกลับมาจากอาการผ่าตัดถึง 4 ครั้งหลังระหว่างปี 2015-2016 และคว้าแชมป์กอล์ฟ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ 2019 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ และเป็นการคว้าแชมป์เมเจอร์สมัยที่ 15 ของเขาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการตอกหน้าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่าเขา ‘หมดแล้ว’ ได้อย่างราบคาบ
แต่หลังจากนั้น ไทเกอร์ต้องผจญกับวิบากกรรมครั้งใหญ่ในชีวิต เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บหนักที่ขาเนื่องจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ถนนฮอร์ตัน บูเลอวาร์ด ย่านนครลอสแอนเจลิส เมื่อปี 2021
อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ขาหลายต่อหลายครั้ง และเคยถึงขั้นปลงตกออกมารับสภาพการเล่นกอล์ฟอาชีพว่าเป็นเรื่องยากของเขาไปแล้ว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ไทเกอร์กล่าวแบบปลงๆ ว่า “แน่นอนว่าการแข่งขันอาชีพแทบไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกแล้ว ผมคงแข่งขันได้บางอีเวนต์ แต่จะให้เดินทางไปแข่งตลอดฤดูกาลแบบเมื่อก่อนคงเป็นไปไม่ได้แล้ว การชิปหรือพัตต์อาจจะไม่มีปัญหา ยังคงทำได้ดี แต่ถ้าจะให้ไดรฟ์ทำระยะไกลๆ คงยาก เพราะขนาดเดินยังลำบากเลย”
ดังนั้น โพสต์ที่เขาพิมพ์ในทวิตเตอร์ ความว่า “ผมพร้อมกลับมาลงเล่น พีจีเอทัวร์ รายการเจเนซิส อินวิเตชันแนล ในสัปดาห์หน้าแล้ว” จึงเป็นข่าวที่สร้างแรงกระเพื่อมต่อวงการกอล์ฟอย่างรุนแรงเลยทีเดียว
คำถามแรกที่ใครหลายๆ คนถามตรงกันหลังจากความไฮป์ที่เกิดขึ้น คงหนีไม่พ้นว่าทำไมเขาต้องประกาศคัมแบ็กในช่วงเวลานี้ด้วย?
ไทเกอร์ประกาศการกลับมาระหว่างการแข่งขันดับเบิลยูเอ็ม ฟีนิกซ์ โอเพน ที่มลรัฐแอริโซนา ซึ่งกอล์ฟทัวร์นาเมนต์นี้เป็นทัวร์นาเมนต์แรกที่มีเงินรางวัลรวมสูงสุด ในบรรดาการแข่งขันพีจีเอทัวร์ปีนี้หากไม่นับรายการประเภทเมเจอร์ โดยมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 673 ล้านบาท
ขณะที่กอล์ฟ เจเนซิส อินวิเตชันแนล ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ก็ถือเป็นหนึ่งในรายการที่มีเงินรางวัลรวมสูงสุดเท่ากันกับฟีนิกซ์ โอเพน ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ไทเกอร์เลือกประกาศกลับมาลงแข่งขันในรายการที่เกือบพรากอาชีพการเล่นกอล์ฟไปจากเขาด้วย เพราะในปี 2021 ที่เขาประสบอุบัติเหตุจนต้องพักรักษาตัวยาวนานนั้น เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันเจเนซิส อินวิเตชันแนล รายการนี้เอง
จึงเหมือนกลับว่า ‘พญาเสือ’ เลือกที่จะ ‘ลุกขึ้น’ ในที่ที่เขา ‘ล้มลง’ ไม่มีผิด
โดยนี่จะเป็นการกลับมาเล่นในทัวร์นาเมนต์พีจีเอทัวร์ (ที่ไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์) ครั้งแรกของไทเกอร์นับตั้งแต่ กอล์ฟ โซโซ แชมเปียนชิป 2020 เลยทีเดียว
แต่ถ้านับรวมรายการในระดับเมเจอร์ด้วย เขาลงเล่นไป 2 รายการเมื่อปีที่ผ่านมา โดยลงในรายการมาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์, พีจีเอ แชมเปียนชิป และดิโอเพน ก่อนที่จะถอนตัวในพีจีเอ แชมเปียนชิป ในเวลาต่อมา และผ่านการตัดตัวแค่รายการเดียว คือศึกเดอะ มาสเตอร์ส โดยจบอันดับ 47
ไทเกอร์ตั้งเป้าหมายไว้ที่กอล์ฟรายการเมเจอร์เสมอมา เหมือนที่เขาเคยกล่าวไว้ในการถอนตัวจากการแข่งขันกอล์ฟ ฮีโร่ เวิลด์ ชาเลนจ์ ที่เขาเป็นโฮสต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า
“เป้าหมายคือการได้เล่นในรายการเมเจอร์ และบางทีอาจจะมากกว่านั้นอีก 1-2 รายการ แค่นั้นคือทั้งหมดที่ผมทำได้
“นั่นคือทั้งหมดที่ร่างกายอนุญาตให้ผมทำได้ ผมหมายความว่า ผมเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ขาข้างนี้ก็เหลือเวลาไม่มากนัก ดังนั้นผมควรเตรียมพร้อมสำหรับงานที่ใหญ่ที่สุด และผมหวังว่าโชคจะเข้าข้างผมบ้าง นั่นคือสิ่งที่ผมพอจะทำได้ในตอนนี้”
จากคำพูดด้านบน ไทเกอร์ไม่ได้ตัดการแข่งขันในรายการอื่นๆ ออกทั้งหมด แต่เขาเน้นย้ำว่าจะทำ ‘เท่าที่ไหว’ และจะเลือกลงรายการที่ ‘ใหญ่พอ’ ซึ่งการลงแข่งขันในเจเนซิส อินวิเตชันแนล ก็มีองค์ประกอบทุกอย่างที่เขาต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดและมีเงินรางวัลสำหรับแชมป์มากถึง 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 121 ล้านบาท จากเงินรางวัลรวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงนี่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการ ‘ลุกขึ้น’ ในจุดที่เขาเคยล้ม
นอกจากนี้ ยังมีคนสังเกตว่า การกลับมาของไทเกอร์ในครั้งนี้ มีเรื่องของการต่อสู้ระหว่างพีจีเอทัวร์กับลิฟ กอล์ฟ (LIV Golf) มาเกี่ยวข้องด้วย
โดยทาง ดีแลน ดีเธียร์ คอลัมนิสต์สายกอล์ฟของ USA Today กับ GOLF.com ตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศคืนสู่สังเวียนพีจีเอของไทเกอร์ ‘พอดิบพอดีเกินไป’
เนื่องจากการประกาศกลับมาของไทเกอร์ เป็นการประกาศระหว่างการแข่งขันรายการดับเบิลยูเอ็ม ฟีนิกซ์ โอเพน แถมยังเป็นเวลาเพียง 3 วันก่อนศึกซูเปอร์โบวล์จะเริ่มต้นขึ้น
ด้วยเหตุผลที่ว่ามา ทำให้นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าไรนักในการประกาศเรื่องใหญ่เช่นนี้ เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาที่สื่อสายกอล์ฟจะป่าวประกาศเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ และไม่ใช่ช่วงเวลาที่สื่ออเมริกันจะมาให้ความสนใจในข่าวนี้ ในเมืองมีมหกรรมกีฬาที่ถือเป็น ‘เบอร์ 1’ ของประเทศอย่างซูเปอร์โบวล์รออยู่
แต่เหตุบังเอิญ (?) เดียว ที่ทำให้การประกาศกลับมาของไทเกอร์ เป็นข่าวที่สำคัญในวงการกอล์ฟ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ มากกว่าเดิม คือวันที่แชมป์เมเจอร์ 15 สมัย ประกาศกลับมาสู่พีจีเอทัวร์ คือวันเกิดของ เกร็ก นอร์แมน ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันของลิฟ กอล์ฟ
เป็นที่รู้กันดีว่า ไทเกอร์ วูดส์ มีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและแข็งแกร่งกับพีจีเอทัวร์ ดังนั้นการกลับมาของเขา จึงช่วยให้พีจีเอเรียกกระแสบนหน้าสื่ให้กับทัวร์หมายเลข 1 ของโลกกลับมาได้ไม่มากก็น้อย เพราะดูเหมือนว่าในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา พื้นที่บนหน้าสื่อกลายเป็นของลิฟ กอล์ฟไปเกือบหมด
ไทเกอร์จะเข้าร่วมกอล์ฟ เจเนซิส อินวิเตชันแนล ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ หรือคือสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ก่อนที่ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชันแนล สนามแรกที่มายาโคบา ประเทศเม็กซิโก จะเริ่มต้นขึ้น
ดังนั้นการกลับมาสู่พีจีเอทัวร์ของ ไทเกอร์ วูดส์ จะช่วยให้โฟกัสของหน้าสื่อเทไปยังพีจีเอมากขึ้น และยังช่วยลดกระแสข่าวการเปิดตัวฤดูกาลที่ 2 ของกอล์ฟรายการที่มีเงินรางวัลมากที่สุดในโลกลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ คือการประกาศกลับมาลงเล่นในพีจีเอทัวร์ครั้งนี้จะเป็นการประกาศ ‘คัมแบ็ก’ ครั้งสุดท้ายของเขาหรือไม่?
นี่เป็นประเด็นที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะอย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่า แม้แต่ไทเกอร์เองก็ยอมรับว่าตัวของเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก เนื่องจากร่างกายของเขาโรยราลงไปในทุกๆ วัน
ตลอดชีวิตนักกอล์ฟอาชีพของไทเกอร์ เขาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมาตลอดอาชีพ โดยรวมแล้วก็กว่า 30 ครั้ง บางอาการทำให้เขาต้องพักและหายหน้าไปช่วงเวลาหนึ่ง ขณะที่บางครั้งก็ร้ายแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด โดยรวมแล้ว ไทเกอร์บาดเจ็บมาแล้ว ‘ทั่ว-ทั้ง-ตัว’
ไทเกอร์เคยบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หน้าเข่าในปี 2002 และ 2007 หลังจากนั้นในปี 2008 เขาต้องผ่าตัดรักษาหน้าแข้งขณะที่ในปี 2010 เขามีปัญหาที่ต้นคอ ต่อมาในปี 2011 เขาบาดเจ็บที่ข้อเท้า ก่อนมามีอาการที่เอ็นข้างเข่าต่อเนื่อง
ในปี 2012-2013 ไทเกอร์มีอาการเจ็บข้อศอก และเริ่มมีสัญญาณที่เลวร้ายบ่งบอกว่าหลังของเขาเริ่มไม่เหมือนเดิม และอาการดังกล่าวก็แย่ลงเรื่อยๆ จนปี 2015 จบลง ทำให้เขาต้องยอมเข้ารับการผ่าตัดหลัง และพักยาว 16 เดือน
หลังจากนั้น ไทเกอร์ก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกหลายครั้ง ก่อนกลับมาเล่นได้อีกครั้งในปี 2018 แต่ในปี 2019 เขาก็มีอาการที่คออีกครั้ง ก่อนที่ในปี 2020 เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหลังเป็นครั้งที่ 5 และมาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องพักยาวมาจนถึงตอนนี้
จากที่ไล่มาคร่าวๆ จะเห็นว่า ไทเกอร์มีร่างกายที่ย่ำแย่มากๆ และการที่เขายังเล่นในทัวร์ได้อยู่ จึงเกือบจะเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ด้วยซ้ำไป
ดังนั้นหากเขาเกิดได้รับบาดเจ็บอีกแม้แต่ครั้งเดียว โดยเฉพาะหากอาการนั้นเกิดขึ้นที่บริเวณหลังอีก นี่คงเป็นการประกาศกลับมาเล่นกอล์ฟครั้งสุดท้ายของเขาจริงๆ
ปัจจุบันไทเกอร์รั้งมืออันดับ 1,283 ของโลก ในการจัดอันดับของ OWGR (Official World Golf Ranking) ทั้งที่เขาจบปี 2020 ด้วยการมืออันดับที่ 41 ของโลก ซึ่งช่วงนั้นเป็นเวลาไม่ถึง 2 เดือนก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วย
ด้วยตัวเลขอันดับโลกระดับหลักพัน การจะได้เห็นไทเกอร์ ซึ่งลงเล่นปีละไม่กี่รายการกลับไปอยู่อันดับท็อป 10 เห็นจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ขณะเดียวกัน การลุ้นให้ ‘พญาเสือ’ ได้แชมป์เมเจอร์สมัยที่ 16 ก็คงเป็นเรื่องที่ยากไม่แพ้กัน เพราะอายุที่เพิ่มขึ้นของเขา รวมไปถึงสภาพร่างกายที่ย่ำแย่จากอุบัติเหตุ และอาการบาดเจ็บที่สั่งสมมาหลายปี
ดังนั้น นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้เห็น ไทเกอร์ วูดส์ ลงโชว์วงสวิงบนสนาม และเราไม่รู้ว่าเราจะเห็นเขาลงเล่นไปอีกนานแค่ไหน
สิ่งที่ทำได้นั้นก็อาจจะมีแค่ ‘ดูเขาอีกครั้ง และดูให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้’…เพราะในอนาคตเราอาจจะกล่าวได้ว่า เราอยู่ทันในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของ พญาเสือ ไทเกอร์ วูดส์ คนที่ช่วยสร้างให้กีฬากอล์ฟเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
อ้างอิง:
- https://golf.com/news/tiger-woods-comeback-genesis-wild-week/ https://www.golfmagic.com/pga-tour/patrick-cantlay-not-keen-netflix-doc-full-swing-or-pga-tour-idea
- https://www.express.co.uk/sport/golf/1733456/Tiger-Woods-PGA-Tour-comeback-Open-golf-news
- https://www.mirror.co.uk/sport/golf/breaking-tiger-woods-pga-tour-29187409
- https://www.skysports.com/golf/news/12028/12807827/tiger-woods-injury-timeline-surgeries-procedures-and-comebacks-during-his-career