วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำพรรค เช่น ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเดินทางเข้าพรรควันแรก ไพบูลย์ นิติตะวัน, วิรัช รัตนเศรษฐ, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์, อุตตม สาวนายน, วราเทพ รัตนากร ได้แถลงนโยบายหลักเพิ่มเติมในแคมเปญการเลือกตั้งปี 2566 โดยเสนอ 2 นโยบายหลักที่จะแก้ไขปัญหาน้ำแล้งและที่ดิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ทัดเทียมนานาชาติ หลังจากที่พรรคได้ประกาศนโยบายเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือนและได้กระแสตอบรับที่ดีจากประชาชน
พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ทุกวันนี้ปัญหาความยากจนยังคงมีอยู่และพรรคพลังประชารัฐพร้อมขจัดปัญหาความยากจน โดยประกาศเป็นวาระแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาบริหารจัดการน้ำและปัญหาที่ดินทำกิน
สำหรับนโยบาย ‘มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน’ พรรคจะเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ เพิ่มแหล่งน้ำสำรองและแหล่งน้ำทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก ยกระดับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำ พร้อมเผชิญภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
นโยบาย ‘มีเรามีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน’ จะปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน เร่งรัดออกเอกสารสิทธิที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จัดที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คนไร้ที่ทำกินกว่า 2 ล้านราย ยกระดับธนาคารที่ดิน ตั้งศูนย์พิสูจน์และคุ้มครองสิทธิประชาชน และแก้ไขกฎหมายที่ดินทั้งระบบเพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างคุ้มค่าสูงสุดรองรับการพัฒนาประเทศ
ด้าน อรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทุกนโยบายที่ทำจะเกิดประโยชน์และยั่งยืนกับพี่น้องประชาชน หากเราสามารถแก้ไขปัญหาน้ำจากนโยบายที่นำเสนอไปได้น้ำก็จะอยู่กับเราตลอดไป
“สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ไม่สามารถลงรายละเอียดไปมากกว่านั้นได้ เพราะเกรงว่าจะถูกพรรคการเมืองอื่นลอกเลียนแบบ เพราะนโยบายที่พรรคนำเสนอนั้นเป็นนโยบายที่ดี และหากรับอนุญาตทีมโฆษกจะออกมาแถลงรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง” อรรถกรกล่าว