วานนี้ (19 มกราคม) สื่อท้องถิ่นไต้หวันอย่าง Taiwan News รายงานว่า ไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวัน และประธานพรรคเดโมแครติก โปรเกรสซีฟ หรือพรรค DPP คนใหม่ของไต้หวันระบุว่า “ไต้หวันเป็นประเทศเอกราช มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราชอีก”
โดยการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่ไล่ชิงเต๋อกำลังเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำพรรค DPP คนใหม่ ต่อจากประธานาธิบดีไช่อิงเหวินที่ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งดังกล่าว เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 หลังพรรค DPP มีผลงานในการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ค่อยดีนัก แพ้การเลือกตั้งให้กับผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ไปอย่างขาดลอย
ไล่ชิงเต๋อยังกล่าวอีกว่า สาธารณรัฐจีนและสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน โดยอนาคตของไต้หวันหรือสาธารณรัฐจีนนั้น สามารถกำหนดขึ้นได้ด้วยประชาชนเพียง 23 ล้านคนเท่านั้น
นอกจากนี้รองประธานาธิบดีไต้หวันยังระบุว่า ในอนาคตเขาจะยังคงยึดถือแนวทางของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน เพื่อจัดการกับวิกฤตบริเวณช่องแคบไต้หวันต่อไป พร้อมระบุว่า ไต้หวันกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางด้านการทหารและทางด้านการเมืองจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงความพยายามในการจะเปลี่ยนสภาวะที่เป็นอยู่ (Status Quo) โดยไล่ชิงเต๋อยอมรับว่า ไต้หวันอาจไม่สามารถก้าวข้ามหรือทะยานสู่จุดที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว
อีกทั้งยังวอนขอให้รัฐบาลจีนนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งไต้หวันและจีนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และมีศัตรูร่วมกันคือภัยธรรมชาติและโรคติดเชื้อต่างๆ ถ้าหากพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถปรับจุดโฟกัสและหันมาให้ความสำคัญกับประชาชนมากยิ่งขึ้น ไล่ชิงเต๋อเชื่อว่า ปัญหาหลายอย่างจะสามารถคลี่คลายไปได้โดยง่าย
ภาพ: Do Post / Shutterstock
อ้างอิง: