วานนี้ (14 มกราคม) น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดประมูลสิทธิการใช้ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมในวันนี้ (15 มกราคม) ว่า
ขอให้ กสทช. ชะลอการประมูลดาวเทียมออกไปก่อน เนื่องจากตามกฎหมายการพิจารณาการให้สิทธิการใช้ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ต้องเจาะจงว่าต้องใช้วิธีเปิดประมูลเพียงอย่างเดียว
น.อ. อนุดิษฐ์กล่าวว่า ตนจะยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ONDE) เพื่อขอให้เรียกกรรมการ กสทช. เข้าชี้แจงต่อ ONDE เพื่อให้พิจารณาทบทวนให้ชะลอการเปิดประมูลการให้สิทธิตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมไว้ก่อน ซึ่ง ONDE สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากอยู่ในขอบเขตของอำนาจตามกฎหมายที่ให้ดำเนินการ
ทั้งนี้ การพิจารณาให้สิทธิใช้ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมสามารถทำได้หลายวิธี โดยเสนอใช้วิธีการจัดสรรให้หน่วยงานรัฐ เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น โดยให้สิทธิหน่วยงานรัฐเหล่านี้เพื่อนำไปจัดสรรเพื่อใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับภารกิจของกระทรวง หากมีสล็อตที่เหลือก็สามารถนำไปให้เอกชนใช้งานโดยใช้วิธีสัมปทานต่อไปได้
น.อ. อนุดิษฐ์กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาเป็นลำดับแรกในการกำหนดเงื่อนไขการให้สิทธิ วิธีนี้จะเกิดประโยชน์กับการพัฒนาประเทศและสร้างรายได้ให้รัฐได้ด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติเห็นชอบผลการตรวจสอบคุณสมบัติ ประสบการณ์ และความสามารถทางด้านการเงินของผู้ขอรับอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เพื่อเป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือก จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และบริษัท พร้อม เทคนิคคอล เซอร์วิสเซส จำกัด ทำให้ทั้ง 3 บริษัท มีสิทธิที่จะเข้าร่วมประมูลในวันนี้
สำหรับการประมูลครั้งนี้ใช้วิธี Sequential Ascending Clock Auction โดยผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องตัดสินใจตามระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละรอบ (20 นาที) ด้วยการเคาะ ซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้นครั้งละ 5% ของราคาขั้นต่ำ โดยผู้ชนะคือผู้ให้ราคาสุดท้ายสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมประมูลจะไม่ทราบว่าผู้ร่วมแข่งขันรายใดต้องการสิทธิวงโคจรชุดใด และมีความต้องการกี่ชุด รวมทั้งลำดับชุดในการประมูลนั้น กสทช. จะกำหนดลำดับในวันประมูล เพื่อป้องกันการสมยอมกันระหว่างผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งการประมูลในลักษณะนี้จะทำให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด รวมทั้งรายได้ที่เกิดขึ้นหลังหักค่าใช้จ่ายในการประมูล กสทช. จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด