วันนี้ (11 มกราคม) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวชี้แจงสาเหตุที่ วีระกร คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครสวรรค์ ลาออกไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าถึงยาก ว่า ตนมองว่าไม่ถึงขนาดนั้น เพราะวีระกรอาจจะไม่สนิทหรือไม่คุ้นเคยมากกว่า ซึ่งเป็นธรรมดาของผู้ใหญ่ในวงการเมืองว่าจะสนิทกับใครหรือไม่สนิทกับใคร
“พล.อ. ประวิตร เปิดบ้านมาตั้งแต่ตีห้า ก็นั่งกินข้าว เที่ยงก็นั่งกินข้าวกับลูกน้องบ้าง ประชุมทั้งวัน เจอคนทั้งวัน อาจจะคิวเยอะมากกว่า” ชัยวุฒิกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วีระกรไม่ได้ถูกกีดกันใช่หรือไม่ ชัยวุฒิระบุว่า ไม่ได้ถูกกีดกัน ทั้งนี้ เหตุผลที่แท้จริงตนมองว่าเป็นเรื่องการทำงานที่มีปัจจัยอื่นด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องดังกล่าวเรื่องเดียว
ส่วนที่ชัยวุฒิให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ชวนไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากชวนจะไปหรือไม่ ชัยวุฒิกล่าวว่า ตนก็มีความเชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตร ยังเป็นพี่น้องกัน และพรรคที่ทั้งสองท่านทำงานอยู่ก็ต้องทำงานร่วมกัน ถึงแม้การเลือกตั้งจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย แต่สุดท้ายการเปลี่ยนรัฐบาลหรือการทำงานต่างๆ ก็ต้องร่วมกัน
ตนเรียนว่าตนอยู่พรรคพลังประชารัฐก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ขณะที่พรรคที่ตั้งใหม่ก็คงมีทีมงาน มีผู้บริหารแล้ว ซึ่งตนก็คิดว่าไปได้ดีอยู่แล้ว ไม่น่าห่วงอะไร พร้อมย้ำว่า ขอให้ช่วยกันทำงานดีกว่า เพื่อให้ทั้งสองพรรคเดินไปข้างหน้าได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติไม่รวมกัน และพลังประชารัฐอาจไปรวมกับพรรคเพื่อไทย จะทำให้ชัยวุฒิเกิดความอึดอัดในการทำงานหรือไม่ ชัยวุฒิปฏิเสธว่าตนไม่ทราบ ต้องรอดูสถานการณ์ ทุกอย่างต้องรอหลังเลือกตั้ง อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ วันนี้ขอให้มองที่นโยบายของพรรคการเมืองว่ามีข้อเสนอหรือแนวทางอย่างไรดีกว่า อย่าเพิ่งไปดูว่าใครจะร่วมกับใคร เพราะต้องรอให้เลือกตั้งเสร็จก่อนจึงจะรู้ว่าได้จำนวน ส.ส. เท่าใด สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูเจตนารมณ์ของประชาชน ตนมองว่ากระแสการเลือกตั้งเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะมีการเรียกกระแสกลับมาอย่างไร หลังจากพรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัวแล้วดูเหมือนจะได้รับกระแสนิยมมากกว่า ชัยวุฒิกล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองก็ต้องหาจุดขายในการเลือกตั้ง อาทิ นโยบายหรือแนวคิดทางการเมืองว่าจะทำอะไรให้ประชาชน พรรคต้องมีข้อเสนอที่ดีให้ประชาชน ซึ่งขึ้นอยู่กับหัวหน้าและผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนจะมีการเปิดตัว พล.อ. ประวิตร ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ชัยวุฒิถามกลับผู้สื่อข่าวว่า เปิดตัวทำไม พล.อ. ประวิตร อยู่มาตั้งกี่ปีแล้ว เอาไว้วันสมัครก่อนดีกว่าไหม เพราะต้องรอให้เป็นทางการก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตร ชัยวุฒิคิดว่าประชาชนจะซื้อใครมากกว่า ชัยวุฒิปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุว่า ตนตอบไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยังมั่นใจ พล.อ. ประวิตร ว่าน่าซื้ออยู่หรือไม่ ชัยวุฒิย้ำว่า ตนก็ไม่ทราบ ขอให้ไปถามประชาชนดีกว่า ซึ่งสื่อมวลชนก็เป็นกระจกสะท้อนประชาชน