Fast Retailing ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Uniqlo จะเพิ่มค่าจ้างรายปีสำหรับพนักงานประจำในญี่ปุ่นสูงถึงประมาณ 40% ในเดือนมีนาคมนี้ ตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับค่าจ้างพนักงานขายเสื้อผ้าในตลาดอย่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา
บริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่นเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งเร็วที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทำให้บริษัทต้องพิจารณาขึ้นค่าจ้างเพื่อรักษาและจูงใจพนักงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘Uniqlo’ เปิดตัว New U นำเสนอไลฟ์แวร์ ร้านดอกไม้และกาแฟกลางสยาม ดึงคนรุ่นใหม่
- ‘นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว’ เคล็ดวิชาไม่ลับที่ทำให้ Uniqlo กลายเป็นแฟชั่นแบรนด์ในหัวใจของชาวจีน
- GU แบรนด์น้องสาวของ Uniqlo จะทะยานออกนอกเอเชีย ด้วยการบุกไปเปิดป๊อปอัพสโตร์ที่ย่านโซโหของนิวยอร์ก
สำหรับแผนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพนักงาน 8,400 คน ทั้งที่สำนักงานใหญ่ของ Fast Retailing และที่ร้านค้าของบริษัท โดยเงินเดือนเริ่มต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนเยน หรือราว 76,000 บาท จาก 2.55 แสนเยนในปัจจุบัน
ขณะที่เงินเดือนสำหรับผู้จัดการร้านคนใหม่ ซึ่งปกติแล้วทำงานมา 1-2 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 แสนเยน จาก 2.9 แสนเยน
แม้ Fast Retailing ขึ้นค่าจ้างเริ่มต้นในปี 2020 สำหรับพนักงานประจำบางคน แต่นี่จะเป็นการขึ้นเงินเดือนแบบครอบคลุมครั้งแรก นอกจากนี้ยังเพิ่มค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับพนักงานชั่วคราวโดยเฉลี่ยประมาณ 20% ในเดือนกันยายนด้วย
“ต่อจากนี้ไป ค่าตอบแทนใหม่ของพนักงานแต่ละคนจะถูกตัดสินโดยเกณฑ์ที่สอดคล้องกันทั่วโลก” โดยพิจารณาจากประสิทธิภาพการทำงานและผลงาน รวมถึงความสามารถในการมีส่วนร่วมในธุรกิจ Fast Retailing ซึ่งโดยรวมแล้วการเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะเพิ่มต้นทุนแรงงานของผู้ค้าปลีกแฟชั่นในญี่ปุ่นประมาณ 15%
ความเคลื่อนไหวของ Fast Retailing สามารถกระตุ้นให้บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากเดินตาม ในขณะที่พวกเขามองหาผู้มีความสามารถระดับโลก ซึ่งพนักงาน Fast Retailing โดยเฉลี่ยในญี่ปุ่นมีรายได้ 9.59 ล้านเยนต่อปี ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่ให้ค่าแรงสูงสุดในประเทศ แต่ตัวเลขนี้ยังต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทต่างชาติ
อ้างอิง: