ร่างกฎหมายใหม่ในสหรัฐฯ บังคับให้แบนแอปวิดีโอยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรอย่าง TikTok บนอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ
แอปวิดีโอสั้นชื่อดังจากแดนมังกรอย่าง TikTok จะถูกแบนจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลภายใต้ร่างกฎหมายใหม่ที่อนุมัติโดยสภาคองเกรสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ธันวาคม) ตอกย้ำถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภัยความมั่นคงกับบริษัทแม่อย่าง ByteDance
การแบน TikTok บนอุปกรณ์ของเจ้าหน้ารัฐอาจกลายเป็นผลดีต่อคู่แข่งอย่าง Facebook, Instagram และ Snap ที่กำลังแย่งเค้กกันในตลาดโซเชียลมีเดียของวัยรุ่นหนุ่มสาว ทั้งนี้ ร่างกฎหมายมีข้อยกเว้นสำหรับผู้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัย
โดยฝ่ายนิติบัญญัติจากพรรคการเมืองทั้งสองฝ่าย รวมถึงผู้อำนวยการจาก FBI อย่าง คริสโตเฟอร์ เรย์ ต่างกลัวว่าเงามืดจากเจ้าของ TikTok อาจทำให้ข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ เกิดอันตรายได้ เนื่องจากบริษัทจากจีนอาจถูกบังคับให้ส่งข้อมูลผู้ใช้ของตนให้ผู้มีอำนาจด้วยข้อกฎหมายของประเทศ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ TikTok เคยแถลงการณ์แล้วว่าข้อมูลผู้ใช้จากสหรัฐฯ ไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศจีน แต่การรับประกันเหล่านั้นอาจช่วยบรรเทาความกังวลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ ByteDance กำลังดำเนินการเพื่อหาทางออกกับฝ่ายบริหารเพื่อบรรเทาความกังวลด้านภัยความมั่นคงของชาติ ผ่านคณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐฯ
“เราผิดหวังอย่างมากที่สภาคองเกรสเลือกที่จะแบน TikTok บนอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งอาจเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับความมั่นคงของชาติเลยแม้แต่น้อย แทนที่จะกระตุ้นให้ฝ่ายบริหารสรุปผลการตรวจสอบในเรื่องภัยความมั่นคงแห่งชาติเสียที” โฆษกของ TikTok กล่าวผ่านแถลงการณ์หลังการเปิดตัวของร่างกฎหมาย
“ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นหลังการตรวจสอบของ CFIUS จะแก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัยใดๆ ที่จะเกิดขึ้น แผนการดังกล่าวได้พัฒนาขึ้นภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติชั้นนำของประเทศ ซึ่งเป็นแผนการที่เรากำลังดำเนินการเป็นอย่างดี เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แพลตฟอร์มของเราในสหรัฐอเมริกา และเราจะรายงานผลสรุปกับฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- TikTok ยังคงปฏิเสธที่จะให้คำมั่นกับฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ว่าจะหยุดส่งข้อมูลของผู้ใช้ในอเมริกาไปยังจีน
- Google กังวล! Gen Z เริ่มใช้ TikTok ค้นหาข้อมูลมากขึ้น
- วิทยาศาสตร์ช่วยไขปริศนา เกิดอะไรกับสมองเด็กที่ติด TikTok งอมแงม ความกังวลที่อาจนำไปสู่ ‘โรคสมาธิสั้น’
อ้างอิง: