วานนี้ (22 ธันวาคม) พล.ร.อ. ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เข้าชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ต่อกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยมีเจ้ากรมอู่ทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือร่วมชี้แจงด้วย
พล.ร.อ. ชลธิศกล่าวว่า ประเด็นแรกเรื่องของกำลังพลที่อาจติดอยู่ในเรือที่อับปาง จากการตรวจสอบก่อนที่เรือจะอับปางลง กำลังพลทั้งหมดได้ขึ้นมาอยู่ในบริเวณที่ไม่จมน้ำแล้ว แต่เมื่อเรืออับปางไปแล้วอาจมีพลังดูดของน้ำ โดยขณะนี้ได้มีการส่งหมู่เรือเข้าไปสำรวจและกู้เรือไปถึงพื้นที่แล้ว เป็นเรือลากทำลายทุ่นระเบิด และได้ส่งยานลงไปสำรวจความเสียหายและวิธีเก็บกู้เรือขึ้นมา ซึ่งในการสำรวจครั้งนี้ จะเป็นการค้นหากำลังพลที่อาจถูกพลังน้ำดูดลงไปด้วย
นอกจากนี้ ทางกองทัพเรือยังดำเนินการลาดตระเวนค้นหากำลังพลจำนวน 23 นาย ที่ยังประสบเหตุอยู่ในทะเล ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการปฏิบัติงานร่วมกับกองทัพอากาศ ซึ่งได้สนับสนุนอากาศยาน รวมถึงยังมีการปฏิบัติงานร่วมกับกรมตำรวจ กรมเจ้าท่า และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ปัจจุบันถือว่าเป็นชั่วโมงที่ 85 แล้ว ซึ่งทุกนาทีมีค่า กำลังพลที่อยู่ในน้ำก็เปรียบเสมือนครอบครัว เราคิดถึงเพื่อนร่วมงาน พี่น้อง เพราะฉะนั้นจะดำเนินการเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในเรื่องของเรือ อากาศยาน อากาศยานไร้คนขับ และความร่วมมือของทุกหน่วยงาน
สำหรับการแบ่งพื้นที่สำรวจจากจุดที่เรืออับปาง ได้มีการแบ่งคร่าวๆ กว้างยาว ประมาณ 20 ไมล์ทะเล ซึ่งปัจจุบันมีทิศทางน้ำไหลมาทิศใต้ และทิศทางลมไหลเข้าแผ่นดิน แบ่งพื้นที่เป็นหน่วยย่อยออกมา 15 หน่วยแล้ว และใช้อากาศยานเป็นเครื่องมือหลักในการลาดตระเวน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และใช้เรือเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้พบสิ่งของที่มาจากเรือหลวงสุโขทัย และซากเรืออื่นๆ เป็นการพิสูจน์ว่าการดำเนินการค้นหามีทิศทางถูกต้องแล้ว และจะดำเนินการต่อไป
ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ พล.ร.อ. ชลทิศระบุว่า ได้มีการดำเนินการอยู่ ซึ่งเรื่องสำคัญที่จะต้องทำให้ความจริงปรากฏคือ สาเหตุของเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพราะตั้งแต่ตนรับราชการมา 35-36 ปี ไม่เคยพบเจอในลักษณะนี้ กองทัพเรือเองจึงอยากหาสาเหตุเพื่อดำเนินการแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ย้ำว่ากองทัพเรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนเหตุการณ์เรือสุโขทัยอับปางในครั้งนี้ มีกระแสสั่งว่า นายสั่งไม่ให้เรือจมใช่หรือไม่ เสนาธิการทหารเรือยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ในขั้นนี้จะเสนอข้อเท็จจริงเท่านั้น ความเห็นหรือข้อคิดเห็นต่างๆ ตนไม่ขอพูดถึง ซึ่งมีความเห็นเป็นจำนวนมาก มีเขาเล่าว่า มีคนนี้คิดว่า มีคนนั้นเห็นว่า แต่ต้องดำเนินการสอบสวนและหาข้อเท็จจริง