วันนี้ (16 ธันวาคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มอบรถให้กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับ และแผนกนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อใช้ในภารกิจต่างๆ โดยมี พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มารับมอบด้วยตนเอง
ชูวิทย์กล่าวว่า การมอบรถครั้งนี้ไม่ได้เริ่มมอบที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นแห่งแรก ที่ผ่านมาตนได้มอบให้กับโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ การมอบให้ครั้งนี้เป็นไปด้วยเจตนาที่ดี เนื่องจากเล็งเห็นว่ารถที่มีอยู่ไม่มีการติดตั้งแอร์ ทำให้เกิดความลำบาก ไม่สะดวกสบายต่อทั้งครอบครัวและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้การจะมอบรถ 1 คันต้องใช้เวลาทำนานมากกว่า 2 เดือน ฉะนั้นจึงเป็นการตั้งใจมอบให้อยู่แล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมาตนก็ได้อำนวยทางตำรวจมาเสมอ เช่น การสร้างป้อมตำรวจมากกว่า 70 ป้อม เนื่องจากเห็นว่าตำรวจเป็นผู้ที่เสียสละ ดูแลประชาชน
ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์กล่าวว่า รถคันนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจมีความต้องการใช้ ที่ผ่านมาได้สอบถามไปที่แพทย์ผู้ปฏิบัติงาน และได้รับคำตอบว่ารถดังกล่าวจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่นอน ทั้งในส่วนงานของนิติเวช และการไปฉีดวัคซีนตามที่ต่างๆ
โดยภายหลังการรับมอบรถ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ได้กล่าวถึงกรณีการทุจริตสอบตำรวจว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่อเนื่อง และให้ทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติคอยรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนได้รับทราบ
ส่วนคดีที่ชูวิทย์ได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอดอย่างคดีของ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ขณะนี้ได้ทราบว่าทางอัยการสูงสุด (อสส.) ได้รับคดีนี้ไว้เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานและให้มีตำรวจคอยร่วมมือในการทำคดี ส่วนคดีการฟอกเงิน ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดีไว้ทำเป็นกรณีพิเศษแล้ว
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้จัดแถลงข่าวความคืบหน้าทางคดีเมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม) ว่าทาง บช.น. ได้ประสานการทำงานเร่งด่วนในเรื่องนี้ ส่วนการชี้แจงทาง ผบช.น. ได้บรรยายถึงสิ่งที่ทำมาแต่ต้น แต่มีบางอย่างที่ตนก็ไม่ได้อยากให้พูด เพราะเป็นเรื่องของรูปคดี
หลังจากนี้จะมีการรับประทานอาหารร่วมกันและพูดคุยกันหลายเรื่อง แต่สำหรับ ผบช.น. อาจไม่ได้มาเข้าร่วมในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน
ด้านชูวิทย์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของตนเป็นการทำหน้าที่ในฐานะประชาชนที่สอบถามพูดคุยกับตำรวจ ทั้งนี้ตนไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจที่ทาง ผบช.น. แถลงไปเมื่อวานนี้ แต่ส่วนหนึ่งพอได้ฟังก็ยอมรับว่าพูดถูก แต่บางส่วนตนก็พูดถูกเช่นกัน ให้มองว่าเป็นการนำข้อมูลมาผสานกัน แต่ก็รับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ได้รับประทานอาหารร่วมกัน
จากนั้น พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์, พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และชูวิทย์ได้ร่วมรับประทานอาหารกัน จึงมีการตั้งข้อสังเกตจากสื่อมวลชนว่าการนัดรับประทานอาหารครั้งนี้จะมีการพูดคุยความคืบหน้าการทำคดีตู้ห่าวและเครือข่าย ซึ่งก่อนหน้านี้เหมือนจะมีการไม่เข้าใจในหลายประเด็นระหว่างชูวิทย์กับตำรวจชุดทำคดี