ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม เป็นการพบกันของ อาร์เจนตินา อดีตแชมป์ 2 สมัยในเสื้อลายฟ้าขาว พบกับ โครเอเชีย รองแชมป์เก่า ที่มาในเสื้อสีน้ำเงิน
เกมนี้อาร์เจนตินามาในระบบ 4-3-1-2 โดยที่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คนมี นาอูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโกลัส โอตาเมนดี, นิโกลัส ตาเกลียฟิโก กองกลาง 3 คนใช้ เลอันโดร ปาเรเดส, เอนโซ เฟร์นันเดซ และ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ โดยที่ โรดริโก เด ปอล ยืนหลังกองหน้า และใช้คู่หน้าเป็น ลิโอเนล เมสซี กับ ฮูเลียน อัลวาเรซ
ขณะที่ทางด้านโครเอเชียมาในระบบ 4-3-3 โดยที่ โดมินิก ลิวาโควิช เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คนมี โจซิป จูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล และ บอร์นา โซซา กองกลาง 3 ประสานใช้ ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช กองหน้า 3 คนมี มาริโอ ปาซาลิช, อิวาน เปริซิช และ อังเดรจ์ ครามาริช
ช่วงแรกทั้ง 2 ทีมครองบอลเพื่อหาโอกาส ทำให้แทบไม่มีจังหวะเข้าทำ จนนาทีที่ 16 เป็นโครเอเชียได้โอกาสก่อน เมื่อ โจซิป จูราโนวิช เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ เดยัน ลอฟเรน จะได้โหม่ง แต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 25 เอนโซ เฟร์นันเดซ ได้ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษให้อาร์เจนตินาได้ลุ้นบ้าง แต่บอลก็ไม่ดีพอที่จะผ่านมือ โดมินิก ลิวาโควิช
นาทีที่ 31 โอกาสเป็นของโครเอเชียอีกครั้ง เมื่อ อีวาน เปริซิช พยายามจะยกบอลข้าม เอมี มาร์ติเนซ ในกรอบเขตโทษ แต่บอลก็แรงข้ามคานออกหลังไป
นาทีต่อมา เป็นอาร์เจนตินามาได้ลูกโทษที่จุดโทษ เมื่อ ฮูเลียน อัลวาเรซ หลุดไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ โดมินิก ลิวาโควิช จะออกมาขวาง ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ ลิโอเนล เมสซี จะรับหน้าที่สังหาร โดยยิงไปทางมุมขวาบุนเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้อาร์เจนตินาออกนำก่อน 1-0 โดยประตูนี้ทำให้ ลิโอเนล เมสซี ยิงเพิ่มเป็น 11 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มากสุดในทีมชาติอาร์เจนตินา แซงหน้า กาเบรียล บาติสตูตา ด้วย
นาทีที่ 39 จากการโต้กลับของอาร์เจนตินา ฮูเลียน อัลวาเรซ พาบอลมาจากครึ่งสนาม ก่อนเลี้ยงเข้าหากรอบเขตโทษ ประกอบกับแนวรับโครเอเชียสกัดบอลไม่ดี ทำให้อัลวาเรซได้เข้าไปจิ้มบอลจ่อๆ ผ่านมือ โดมินิก ลิวาโควิช เข้าไปให้อาร์เจนตินานำห่าง 2-0
นาทีที่ 42 อาร์เจนตินาเกือบมาได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะเตะมุมของ ลิโอเนล เมสซี ไปให้ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ ได้โหม่ง แต่บอลยังไปโดน โดมินิก ลิวาโควิช เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 45 มาริโอ ปาซาลิช พยายามออกบอลในกรอบเขตโทษ แต่บอลแฉลบแนวรับอาร์เจนตินา เกือบจะเข้ากรอบ แต่เคราะห์ดีบอลยังหลุดกรอบออกไป ทำให้จบครึ่งแรก อาร์เจนตินานำก่อน 2-0
นาทีที่ 49 เลอันโดร ปาเรเดส ได้โอกาสยิงไกลให้อาร์เจนตินา เป็นโอกาสแรกในครึ่งหลัง แต่บอลก็ยังไปตรงตัว โดมินิก ลิวาโควิช เซฟไว้ได้
นาทีที่ 58 ลิโอเนล เมสซี เกือบมาบวกประตูที่ 2 ให้ตัวเอง หลังได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่ครั้งนี้ โดมินิก ลิวาโควิช ยังพุ่งตัวมาบล็อกเอาไว้ได้
นาทีที่ 62 โครเอเชียได้โอกาสตีไข่แตก จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้ามา บอลมาถึง เดยัน ลอฟเรน ได้โหม่ง แต่บอลยังติดบล็อกแนวรับของอาร์เจนตินา
นาทีที่ 69 อาร์เจนตินา มาได้ประตูที่ 3 จากการพาบอลขึ้นมาทางกราบของ ลิโอเนล เมสซี ก่อนผ่านบอลให้ ฮูเลียน อัลวาเนซ แท็ปอินเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูให้ทัพ ‘ฟ้าขาว’ หนีห่าง 3-0 และยังทำให้ เมสซี ทาบผลงานแอสซิสต์มากที่สุดของ ดิเอโก มาราโดนา ในเกมฟุตบอลโลกที่ 8 แอสซิสต์ ซึ่งสถิตินี้ถูกจดบันทึกมานับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1966
นาทีที่ 83 เปาโล ดิบาลา ยกบอลให้ อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษเพื่อลุ้นประตูที่ 4 แต่บอลยังหลุดกรอบออกหลังไป
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อาร์เจนตินา เอาชนะ โครเอเชีย 3-0 เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 เป็นทีมแรก รอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โมร็อกโก ต่อไป