ธนาคารกรุงไทย จับมือ อินฟินิธัส เปิดตัว ‘เป๋าตังเปย์’ ซูเปอร์วอลเล็ตที่ให้บริการดิจิทัลเพย์เมนต์แบบครบวงจร ตั้งเป้ามีฐานผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่กว่า 5 ล้านรายภายในปี 2566 พร้อมเดินหน้าอัดฉีดงบพัฒนานวัตกรรมด้านไอทีปีละ 1.1-1.2 ล้านบาท เล็งปล่อยกู้ดิจิทัลเลนดิ้งบนแอปเป๋าตังปีหน้า
ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมียุทธศาสตร์ชัดเจนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ใน 5 อีโคซิสเต็มหลัก ทั้งบริการภาครัฐ การศึกษา การขนส่งมวลชน สุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมถึงการชำระเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการหลักของระบบธนาคาร และเป็นปัจจัยสนับสนุนทุกกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินของไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment อย่างชัดเจน จากการแพร่ระบาดของโควิดเป็นตัวเร่งให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธนาคารออมสิน เปิดตัวเงินฝากดอกเบี้ยขั้นบันได จ่ายสูงสุด 4.5% และ 10% หวังส่งเสริมการออมระยะยาว
- เปิดสถิติ 9 เดือนแรกปี 65 ธนาคาร ไหนครองแชมป์แอปล่มมากที่สุด
- ไม่ตกขบวน! ไทยพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ย MLR และ MOR 0.25% พร้อมขยับดอกเบี้ยเงินฝากประจำสูงสุด 0.50%
จากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2565 การใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 400 รายการต่อคนต่อปี จากปี 2564 อยู่ที่ 312 รายการต่อคนต่อปี และปี 2563 อยู่ที่ 202 รายการต่อคนต่อปี โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Internet & Mobile Banking มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 133 ล้านบัญชี มีปริมาณธุรกรรม 2,139 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 48.6% มูลค่ารวม 8.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีธุรกรรมที่เติบโตสูงคือ บริการชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ซึ่งเป็นการชำระเงินของคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์บนมือถือ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานถึง 122.6 ล้านบัญชี ปริมาณธุรกรรม 302 ล้านรายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 38.5% มูลค่ารวม 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดอย่างยั่งยืน ธนาคารจึงร่วมกับ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย พัฒนา ‘เป๋าตังเปย์’ (Paotang Pay) ให้เป็นซูเปอร์วอลเล็ตของคนไทย ช่วยเพิ่มศักยภาพดิจิทัลเพย์เมนต์บนแอป ‘เป๋าตัง’ ให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2566
“ปัจจุบันเรามีผู้ใช้งานแอปเป๋าตังอยู่ 40 ล้านคน และมีมูลค่าธุรกรรมในบริการพื้นฐานต่างๆ สูงกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุ 30 ปีขึ้นไป เรามองว่าเป๋าตังสามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้หากผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา จึงมีการต่อยอดจากซูเปอร์แอปมาสู่ซูเปอร์วอลเล็ต ซึ่งเราคาดว่าภายใน 3 ปี เป๋าตังเปย์จะเป็นวอลเล็ตที่คนใช้งานมากที่สุด” ผยงกล่าว
ผยงกล่าวอีกว่า ปัจจุบันธนาคารใช้งบประมาณพัฒนาบริการด้านไอทีและนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีหน้าก็จะยังให้ความสำคัญการพัฒนาบริการในส่วนนี้ต่อไปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของคนไทย โดยหนึ่งในบริการที่อยู่ระหว่างศึกษาและอาจเกิดขึ้นในปีหน้าคือการปล่อยกู้ดิจิทัลเลนดิ้งบนแอปเป๋าตัง
ประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ผู้พัฒนาแอปเป๋าตัง กล่าวว่า ทิศทางการชำระเงินในอนาคตมุ่งสู่ Digital Payment อย่างชัดเจน จากรายงาน Global Payments ของ World Pay ชี้ว่า ปัจจัยสนับสนุนคือ
- ความนิยมซูเปอร์แอป หรือแอปที่รวมฟังก์ชันต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบครบวงจรจากแพลตฟอร์มเดียว
- ผู้บริโภคชอบการชำระเงินที่มีความคล่องตัว ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด
- ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นนำต่างเปิดรับการชำระเงินด้วยวอลเล็ต รวมถึงเปิดวอลเล็ตของตัวเอง เพิ่มช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค
- มีช่องทางการเติมเงินเข้าวอลเล็ตที่หลากหลายขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น
- การชำระเงินแบบไร้สัมผัสมีการเร่งตัวขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มใช้เงินสดน้อยลงและใช้วอลเล็ตมากขึ้น
จากทิศทางดังกล่าว บริษัทจึงพัฒนา ‘เป๋าตังเปย์’ ให้เป็นบริการอีกขั้นของการชำระเงินในรูปแบบซูเปอร์วอลเล็ตบนแอปเป๋าตังที่ผสานความสามารถของ Bank App และ e-Wallet เข้าด้วยกันให้บริการแบบ Open Loop เป็นวอลเล็ตแรก โดยใช้ QR พร้อมเพย์ เป็นตัวกลาง เปิดกว้างทุกการใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายทุกร้านค้าได้อย่างอิสระ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงานที่มีเพียง 30% บนแอปเป๋าตังเป็นหลัก
ประราลีระบุว่า ‘เป๋าตังเปย์’ ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมคนรุ่นใหม่ INFINITAS NEXT GEN TEAM ภายใต้แนวคิด ‘เปย์ไปมีแต่ได้’ ครอบคลุมทั้งบริการโอนเงิน เติมเงิน สแกนจ่ายผ่าน QR PromtPay ได้ทุกธนาคาร และทุกร้านค้าทั่วไทย รวมถึงใช้ชำระบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ บัตรเครดิต ประกัน หรือค่าธรรมเนียมหน่วยงานภาครัฐ ฯลฯ ซึ่งจะมาพร้อมสิทธิประโยชน์และภารกิจสนุกๆ เพื่อพิชิตคูปองส่วนลดมากมาย
นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านทั่วไทยอย่างแท้จริง ยังได้เปิดตัวบัตรเพลย์ บัตรที่เชื่อมกับเป๋าตังเปย์ ผสานการใช้งานออนไลน์-ออฟไลน์ ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชนแบบ Contactless แตะจ่ายได้ทั้งรถ ราง และทางด่วน ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และรูดจ่ายผ่านเครื่อง EDC Payment ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการออกบัตร เมื่อออกบัตรภายในวันที่ 31 มกราคม 2566 และใช้จ่ายผ่านบัตรเพลย์ ครบ 1,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน รับสิทธิ์รับเครดิตเงินคืนเข้าเป๋าตังเปย์ 45 บาทต่อเดือน (จำกัด 1,000 สิทธิ์ต่อเดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566
ด้าน สุพร สุนทรโรหิต Chief Business Innovation Officer บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จํากัด กล่าวว่า ผู้ที่สนใจใช้งาน ‘เป๋าตังเปย์’ สามารถสมัครใช้งานได้ทันทีบนแอปเป๋าตัง โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงกรอกข้อมูลบัตรประชาชนข้อมูล CDD (Customer Due Diligence) สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน หากสมัครเป๋าตังเปย์สำเร็จ จะสามารถกดสมัครบัตรเพลย์บนแอปเป๋าตังได้ทันที สะดวก และสามารถเติมเงินได้หลายช่องทาง ทั้ง G-Wallet Krungthai NEXT และ Mobile Banking ของทุกธนาคาร หรือผ่าน QR Code รับเงิน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565