กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 และออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ร่วมวานนี้ (2 ธันวาคม) ว่าได้อนุมัติอย่างเป็นทางการให้กำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบทางทะเลของรัสเซียไว้ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และเตรียมบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม หรือหลังจากนั้นไม่นาน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกน้ำมันทั่วโลก เกิดขึ้นหลังสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) สามารถโน้มน้าวโปแลนด์ให้สนับสนุนการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย และปูทางไปสู่การอนุมัติอย่างเป็นทางการในช่วงสุดสัปดาห์
โดยโปแลนด์ประกาศการสนับสนุนเมื่อวานนี้ หลังมั่นใจว่าการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันรัสเซียต่ำกว่าอัตราตลาด 5%
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า EU ต้องการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ประมาณ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่โปแลนด์ ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย ปฏิเสธ โดยมองว่าสูงเกินไป ซึ่งรัฐบาลวอร์ซอว์ต้องการให้เพดานราคาต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ขณะที่ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ยินดีกับท่าทีของ EU ที่เห็นพ้องในข้อตกลงจำกัดราคาเพดานน้ำมันรัสเซีย โดยชี้ว่าจะทำให้ ‘เครื่องจักรสงคราม’ ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ช้าลง
ทางด้านรัสเซียประณามแนวคิดการจำกัดเพดานราคาดังกล่าว และประกาศว่าจะไม่ส่งน้ำมันให้กับประเทศที่บังคับใช้การจำกัดเพดานราคา
โดยสำนักข่าว TASS สื่อกระบอกเสียงของทางการรัสเซีย รายงานความเห็นจากกลุ่มนักการทูตรัสเซียที่มองว่าการกำหนดเพดานราคาดังกล่าว ซึ่งนำเสนอโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรนั้น หมายความในทางปฏิบัติว่าหลักการพื้นฐานของตลาดเสรีกำลังถูกเปลี่ยนโฉมใหม่
“วอชิงตันกำลังพยายามปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าความไม่สมดุลในตลาดน้ำมันโลกในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการกระทำของตนเอง หลักๆ คือการคว่ำบาตรและการแบนวัตถุดิบต่างๆ จากรัสเซีย”
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Russian Urals วานนี้ ซื้อขายอยู่ที่ 64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
แผนกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียเป็นแนวคิดของกลุ่ม G7 ที่เสนอเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อลดรายได้จากการขายน้ำมันของมอสโก และป้องกันไม่ให้ได้รับประโยชน์จากการทำสงครามรุกรานยูเครน ในขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น หลังจากที่สหภาพยุโรปคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากรัสเซีย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมเช่นกัน
แถลงการณ์ยังระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้พุ่งเป้าสนับสนุนเสถียรภาพของตลาดพลังงานโลก และลดผลกระทบด้านลบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการทำสงครามของรัสเซีย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศรายได้น้อยและปานกลาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามอย่างไม่เหมาะสม
ด้าน อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า การจำกัดเพดานราคาน้ำมันจะทำให้รายได้ของรัสเซียนั้นลดลงอย่างมาก
“มันจะช่วยให้เรารักษาเสถียรภาพของราคาพลังงานโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทั่วโลก” ฟอน แดร์ ไลเอิน ระบุในทวีตข้อความบน Twitter พร้อมเสริมว่า “การกำหนดเพดานราคาดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเวลาผ่านไป” เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาของตลาด
ภาพ: Photo by David Hecker / Getty Images
อ้างอิง: