Goldman Sachs คาดว่า สหรัฐอเมริกาและยุโรปสามารถลดการพึ่งพาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนได้ หลังผู้ผลิตจากเกาหลีใต้นำโดย LG และ SK Hynix เร่งขยายฐานการผลิต ท่ามกลางนโยบายกีดกันทางการค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของเคมีภัณฑ์ทางเลือก ทำให้ความต้องการแร่สำคัญๆ จากจีนน้อยลง
หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานว่า ทีมนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่จากสหรัฐฯ เชื่อว่า อุปทานแบตเตอรี่ของสหรัฐฯ จะเพียงพอต่อความต้องการ และจะไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ EV จากจีน ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการลงทุนของกลุ่มบริษัทในเครือ LG และ SK Hynix จากเกาหลีใต้ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ แบตเตอรี่ EV เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความกังวลให้ตะวันตกว่า จะมีการพึ่งพาจีนมากเกินไป ท่ามกลางความพยายามลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันของรัฐบาลจีน ทำให้ตอนนี้จีนผลิตแบตเตอรี่คิดเป็นสัดส่วนถึง 3 ใน 4 ของโลก และยังครองการผลิตวัสดุและส่วนประกอบส่วนใหญ่ด้วย
Goldman Sachs ยังคำนวณว่า เพื่อทำให้ห่วงโซ่อุปทานพอเพียงต่อความต้องการ สหรัฐฯ และยุโรปจะต้องใช้เงินรวมผ่านการใช้จ่ายครั้งใหม่มูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2023 จำนวนนี้ประกอบด้วย 7.82 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ อีก 6.04 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับส่วนประกอบ และ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการขุดลิเทียม นิกเกิล และโคบอลต์ รวมถึง 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับการสกัดแร่เหล่านี้
นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังคาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ของผู้ผลิตแบตเตอรี่จากเกาหลีใต้ในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นแตะ 55% โดยประมาณ ภายในระยะเวลา 3 ปี จากสัดส่วน 11% ในปี 2021
แม้ว่าในตอนนี้จีนจะครองตลาดการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งรวมถึงการขุดและการสกัดวัตถุดิบในสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดอยู่
นักวิเคราะห์กล่าวอีกว่า การครองตลาดของจีนอาจลดลง เนื่องจากนโยบายกีดกันทางการค้าในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของเคมีภัณฑ์แบตเตอรี่ทางเลือก ทำให้ความต้องการแร่สำคัญๆ จากจีนน้อยลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- พร้อมกันหรือยัง? ‘Great Wall Motor’ เตรียมเปิดตัว ORA Grand Cat รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ครั้งแรกในไทย
- ‘NETA’ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ส่ง ‘NETA S’ บุกไทย เปิดโฉมครั้งแรกในงาน Motor Expo 2022
- ‘VinFast’ จับมือ ‘Autonomy’ จัดหารถยนต์ไฟฟ้า 2,500 คันป้อนตลาดสหรัฐฯ
อ้างอิง: