วันนี้ (21 พฤศจิกายน) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนจากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เนื่องด้วยขณะนี้เป็นฤดูหนาวที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัส ประกอบกับทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ขณะที่ไทยก็ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีผู้เดินทางมาจากทั่วโลก
ดังนั้นการดูแลป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนที่มีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นเมื่อครบระยะเวลา เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต โดยประชาชนสามารถติดต่อเข้ารับวัคซีน ณ สถานพยายาลใกล้บ้าน ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกระจายวัคซีนสำหรับประชาชนทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ และเพียงพอกับความต้องการ
“แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดหรือการมีจำนวนผู้ป่วยหนักในไทยไม่ได้อยู่ในระดับสูงหรือน่ากังวล แต่ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ไวรัสมีการแพร่กระจายรวดเร็ว และตอนนี้หลายประเทศที่อากาศหนาวจัดก็มีผู้ป่วยมากขึ้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงมีความห่วงใย และขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนสำหรับทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาล พร้อมบริการให้ประชาชนทั่วประเทศ” ไตรศุลีกล่าว
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โควิดในรอบสัปดาห์ ช่วงวันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,957 คน เฉลี่ยวันละ 565 คน เทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า (วันที่ 6-12 พฤศจิกายน) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,166 คน เฉลี่ยวันละ 452 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 2,478,895 คน
ในส่วนของผู้เสียชีวิตรายใหม่มี 69 คน เฉลี่ยวันละ 9 คน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่เสียชีวิตรวม 42 คน เฉลี่ยวันละ 6 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 11,408 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยปอดอักเสบ 432 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 252 คน
ส่วนจำนวนการให้วัคซีน ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน มีการให้วัคซีนสะสม 143,059,913 โดส เพิ่มขึ้น 3,785 โดส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,072,889 โดส เพิ่มขึ้น 515 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 53,557,785 โดส เพิ่มขึ้น 410โดส และตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไป 32,429,239 โดส เพิ่มขึ้น 2,860 โดส