วานนี้ (17 พฤศจิกายน) สำนักข่าว BBC รายงานว่า จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) วัย 52 ปี จะได้รับหน้าที่ผู้นำขององค์กรต่อไปอีก 4 ปี หลังไม่มีผู้สมัครคนใดลงท้าชิงตำแหน่งประธานกับเขาเลย
อินฟานติโนเป็นประธานคนที่ 9 ของฟีฟ่า หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ซึ่งตอนนั้นมีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนี้ 5 คน ก่อนที่อินฟานติโนจะได้รับเสียงโหวตมากที่สุด และได้รับดำรงตำแหน่งต่อจาก เซปป์ แบลตเตอร์ ก่อนที่ในปี 2019 ผู้บริหารชาวสวิตเซอร์แลนด์รายนี้จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 อีก 4 ปี
วาระการเลือกตั้งประธานฟีฟ่าจะเวียนมาถึงอีกครั้งในงานประชุมฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 73 ในวันที่ 16 มีนาคม 2023 หรืออีกประมาณ 4 เดือนข้างหน้า ณ เมืองคิกาลี ประเทศรวันดา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 00.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเส้นตายในการรับสมัครผู้ลงชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่า ซึ่งจนเมื่อถึงเส้นตายแล้วก็ไม่มีผู้สมัครรายอื่นนอกจากอินฟานติโน ทำให้เขาจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ไปอีก 4 ปี ในการเลือกตั้งภายในงานฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 73 แน่นอนแล้ว
ซึ่งหลังจากที่อินฟานติโนทราบว่าไม่มีผู้สมัครคนใดลงชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่า เขาก็ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้เป็นวันที่พิเศษสำหรับผม คุณอาจจะไม่รู้ แต่คนในวงการฟุตบอลจะรู้ว่าคืนวานนี้เวลาเที่ยงคืน เป็นเส้นตายในการส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ก่อนที่เช้าวันนี้ (ฝ่ายดูแลการเลือกตั้ง) ฟีฟ่าจะยืนยันว่าการเลือกตั้งในวันที่ 16 มีนาคมปีหน้า จะมีผมเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดต่อสาธารณชน ผมขอขอบคุณอย่างสูงสำหรับสมาคมสมาชิกกว่า 200 คน จาก 6 สมาพันธ์ ที่สนับสนุนผมตลอดมา”
สำหรับการดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ของอินฟานติโน จะกินเวลายาวไปจนถึงปี 2026 ก่อนที่การเลือกตั้งประธานฟีฟ่าคนใหม่จะมีขึ้นอีกครั้งช่วงต้นปี 2027 นั่นหมายความว่าเขาจะได้ดำรงตำแหน่งจนจบฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และเป็นครั้งแรกที่จะมีทีมเข้ารอบสุดท้ายเพิ่มเป็น 48 ทีม
อ้างอิง: