หรือนี่คือโอกาสของ Coinbase? แพลตฟอร์มเทรดคริปโตเคอร์เรนซีที่เคยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก สู่การเป็นเบอร์ 2 ของโลก พร้อมทั้งกินส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่ม หลัง FTX แพลตฟอร์มเทรดคริปโตอดีตอันดับ 2 ของโลกล้ม
โดยหลังการล่มของ FTX ในช่วงที่ผ่านมา และทางแพลตฟอร์มอย่าง Coinbase ก็ไม่ได้รับผลกระทบใด เป็นจุดเปรียบเทียบให้นักลงทุนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของบริษัท พร้อมทั้งความเป็นบริษัทเทรดคริปโตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นนี้ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ Coinbase เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- FTX โดนแฮ็ก! หลังมีการไหลออกของเงินกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทแบบไม่ทราบสาเหตุ ด้าน ‘หนึ่ง ปรมินทร์’ เตือน ออกห่างจากแอปพลิเคชัน FTX โดยทันที
- Sam Bankman-Fried ลาออกจากซีอีโอ FTX พร้อมยื่นล้มละลายอย่างเป็นทางการ
- ขนหน้าแข้งไม่ร่วง! ‘Sequoia Capital’ เผยบันทึกมูลค่าการลงทุนทางบัญชีกว่า 7 พันล้านบาทใน FTX เป็น ‘0’ แล้ว
ซึ่งทาง ไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Coinbase ก็ได้ออกมาตอกย้ำถึงจุดยืนของบริษัทผ่าน Twitter ส่วนตัวว่า “ผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะเสริมจุดแตกต่างของบริษัทเราในช่วงเวลาแบบนี้ เนื่องจาก Coinbase พยายามที่จะเป็นผู้เล่นที่ได้รับความไว้วางใจที่สุดในอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด และเราจะไม่เข้าไปทำกิจกรรมเสี่ยงเช่นนี้เด็ดขาด”
อย่างไรก็ตาม ลิซ่า เอลลิส นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อาวุโสของ MoffettNathanson LLC กลับมองว่าการที่ทางบริษัทอย่าง Coinbase จะรุกตลาดสำหรับเทรดเดอร์คริปโตรายใหม่ในช่วงนี้นั้นอาจดูจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากการพังทลายของตลาดอาจทำให้นักลงทุนหน้าใหม่กลัวที่จะเข้ามา และในภาวะตลาดเช่นนี้ นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มเข้าสู่โหมดจำศีลแทนการเทรด
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ Nomics ชี้ว่าตัวเลขปริมาณการเทรดของ Coinbase นั้นลดลงกว่า 75% หลัง FTX ประกาศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย จนทำให้นักลงทุนจำนวนมากเสียหาย และความผันผวนในตลาดที่สูงขึ้นจนแพลตฟอร์มเริ่มมียอดเทรดลดลง
โดยในท้ายที่สุดแล้ว หาก Coinbase สามารถใช้กลยุทธ์ภายใต้วิกฤตดังกล่าวในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าได้ Coinbase ก็มีโอกาสในการกินส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจากผู้เล่นแนวหน้าในตลาดคริปโตที่ลดลง
อ้างอิง: