เอ็กซิตโพลจาก Edison Research ที่จัดทำให้กับสำนักข่าว CNN บ่งชี้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลางเทอมในปีนี้ที่แสดงตัวว่า ตนเองไม่ชอบทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 11% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ตัดสินใจเลือกพรรครีพับลิกันมากกว่า
ผลการสำรวจระบุว่า เกือบ 6 ใน 10 ของประชาชนกลุ่มดังกล่าวเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันในปีนี้ แตกต่างจากการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งที่แล้วเมื่อปี 2018 ซึ่งในขณะนั้น ผู้ที่ไม่ชอบพรรคใดเลยมีสัดส่วนการลงคะแนนให้ทั้งสองพรรคเท่าๆ กัน
หากลงลึกไปกว่านั้นจะเห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ผิดหวังอย่างรุนแรงจากการที่ศาลสูงสหรัฐฯ คว่ำคำตัดสินที่เคยให้สิทธิการทำแท้งแก่สตรี (ประมาณ 39% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) โหวตให้กับพรรคเดโมแครตอย่างท่วมท้น ขณะที่ผู้ไม่พอใจแต่ไม่ถึงกับโกรธแค้น (ประมาณ 21% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) มีแนวโน้มเลือกรีพับลิกันมากกว่าเล็กน้อย
นอกจากนี้ ผู้ที่มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังย่ำแย่หนักเกือบ 9 ใน 10 ได้เทคะแนนเสียงให้กับพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ 6 ใน 10 ของผู้ที่มองว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดีแต่ไม่ถึงกับย่ำแย่ โหวตหนุนผู้สมัครจากเดโมแครต
สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในช่วงเวลาประมาณ 14.05 น. พรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายนำในสภาสูง โดยนำพรรครีพับลิกันไป 1 ที่นั่ง (48-47 ที่นั่ง) ขณะที่ในสภาล่างนั้นพรรครีพับลิกันค่อนข้างนำทิ้งห่างเดโมแครตอยู่พอสมควร หรือที่ 193-170 ที่นั่ง
แฟ้มภาพ: diy13 Via Shutterstock
อ้างอิง: