หลายคนมักจะซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเพราะอยากได้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นหลายคนกลับหันไป ‘iPhone มือสอง’ เพราะมองว่ารุ่นใหม่ราคาแพงเกินไป โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างรุนแรง
สำหรับ Apple มันเป็นที่รู้กันว่าขายสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ ดังนั้นจึงมีราคาที่สูงอยู่แล้ว แต่ในญี่ปุ่นยักษ์ใอทีได้ขึ้นราคา iPhone 13 รุ่นเริ่มต้นเกือบ 20% ขณะที่ iPhone 14 มีราคาที่แพงขึ้นไปถึง 20% ของ iPhone 13 สวนทางกับราคาในสหรัฐฯ จะทรงตัวที่ 799 ดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เศรษฐกิจไม่ดีทำ iPhone 14 ไม่ปังอย่างที่คิด Apple สั่งโรงงาน ‘ลดกำลังการผลิตลง’ ทำหุ้นซัพพลายเออร์ร่วงถ้วนหน้า
- สื่ออเมริกาตกใจ ‘iPhone 14’ ไม่ขึ้นราคา แต่ไม่ใช่ในไทยที่รุ่นเริ่มต้นเพิ่มขึ้น ‘อย่างน้อย 2,000 บาท’ แถมแพงกว่าญี่ปุ่นทั้งที่เงินเยนอ่อนค่ากว่ามาก
- ต้นทุน iPhone 14 เพิ่มขึ้น 20% จากรุ่นก่อนหน้า คาด Apple แบกภาระไว้เอง จึงไม่ขึ้นราคาขายในอเมริกา
แม้ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วโลกในปีนี้ แต่เงินเยนกลับถูกกระทบโดยลดลง 22% ซึ่งเป็นการร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้สินค้านำเข้าต่างๆ มีราคาที่แพงขึ้น
Kaoru Nagase ต้องการโทรศัพท์เครื่องใหม่แต่ด้วยเงินเดือนของเขา ราคา iPhone 14 ซึ่งเริ่มต้นที่ 119,800 เยน กลายเป็นสิ่งที่แพงเกินไป เขาจึงได้ซื้อ iPhone SE 2 มือสอง ที่จ่ายด้วยราคาไม่ถึง 1 ใน 3 แทน
“ด้วยราคามากกว่า 100,000 เยน iPhone 14 นั้นแพงเกินไป และผมไม่สามารถจ่ายได้” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า แม้ iPhone SE 2 ที่วางจำหน่ายในปี 2020 จะไม่มีกล้องหลังคู่ของ iPhone 14 แต่ราคาที่จ่ายไปก็สมเหตุสมผลแล้ว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลข 100,000 เยน กลายเป็น ‘อุปสรรคทางจิตวิทยาที่สำคัญ’ สำหรับลูกค้าที่ต้องควักเงินในกระเป๋าออกมา แม้ว่าหลังจากการขึ้นราคา iPhone 14 ที่ขายในญี่ปุ่นนั้นถูกที่สุดใน 37 ประเทศแล้วก็ตาม แต่การที่เงินเยนออนค่ามากขึ้นอาจทำให้ Apple ตัดสินใจขึ้นอีก ซึ่งอาจจะเข้ามากระทบกับส่วนแบ่งตลาด 50% ของ iPhone ในแดนซามูไร
Apple ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กับ Reuters แต่รายงานพบว่า ยอดขายของญี่ปุ่นลดลง 9% ในปีสิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่าลง
Luca Maestri ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Apple ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้นำไปสู่การขึ้นราคาสำหรับผลิตภัณฑ์ในบางประเทศ แต่ยอดขายยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในอินโดนีเซีย เวียดนาม และตลาดอื่นๆ ที่เผชิญกับความท้าทายด้านค่าเงิน
MM Research Institute เปิดเผยว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนมือสองเติบโตเกือบ 15% ในญี่ปุ่นเป็นประวัติการณ์ 2.1 ล้านเครื่องในปีงบประมาณที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะสูงถึง 3.4 ล้านเครื่องภายในปี 2026
อ้างอิง: