สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ดำเนินการอะไรบางอย่างเพื่อให้เกาหลีเหนือรับผิดชอบต่อการกระทำอันยั่วยุ ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป รวมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของ UNSC อย่างเต็มที่ต่อประเทศที่ฝ่าฝืนมติ
“ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทำให้ความวิตกกังวลที่มีมาตลอดทั้งปีนั้นรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยิงขีปนาวุธจำนวนมาก ซึ่งเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงอย่างโจ่งแจ้ง การใช้ถ้อยคำที่สร้างความระส่ำระสายและคุกคาม และยังคงเพิ่มระดับต่อไป” ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวในการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งจัดขึ้นที่นิวยอร์ก
“สหรัฐฯ ขอประณามด้วยคำที่รุนแรงที่สุด ขีปนาวุธทั้ง 13 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงออกไปตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม รวมไปถึงการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปลูกที่ 7 ในปีนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” โทมัส-กรีนฟิลด์กล่าว พร้อมกับเสริมว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีรวมแล้ว 59 ลูกในปีนี้
การประชุม UNSC เมื่อวันศุกร์ เป็นการประชุมครั้งที่ 9 ในปีนี้ ที่จัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการที่เป็นไปได้ในการทำให้เกาหลีเหนือรับผิดชอบหรือหยุดการกระทำอันยั่วยุอย่างต่อเนื่องของตนเอง
อย่างไรก็ตาม การประชุม 8 ครั้งก่อนหน้านั้นจบลงด้วยความล้มเหลว สาเหตุหลักมาจากการคัดค้านจากรัสเซียและจีน ซึ่งทั้งคู่ใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ (Veto) ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง และในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของเกาหลีเหนือ
ทูตสหรัฐฯ ระบุว่า ปักกิ่งและมอสโกลบหลู่คณะมนตรีความมั่นคงด้วยการพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับเปียงยางในการละเมิดมติของ UNSC ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวกรองที่ว่า เปียงยางพยายามลักลอบส่งกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากไปยังรัสเซียเพื่อใช้ในสงครามยูเครน
ด้านจีนและรัสเซียยังคงไม่เปลี่ยนท่าที แถมยังกล่าวหาสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ด้วยว่าเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกาหลีเหนือต้องยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด
“เหตุการณ์ปัจจุบันและสาเหตุที่แท้จริงที่นำไปสู่สถานการณ์ปัจจุบันบนคาบสมุทรนั้นชัดเจนสำหรับทุกคน การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่เชื่อมโยงโดยตรงกับคำพูดและการกระทำของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” จางจวิน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติกล่าวในการประชุมคณะมนตรีผ่านล่าม
ทูตจีนยังกล่าวต่อไปโดยอ้างถึงการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ว่า “สหรัฐฯ และประเทศที่เกี่ยวข้องได้จัดการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่อีกครั้งหลังจากที่หายไป 5 ปี โดยมีเครื่องบินรบหลายร้อยลำร่วมฝึกซ้อมด้วย”
ขณะที่ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติร่วมวงโจมตีสหรัฐฯ โดยระบุว่า สหรัฐฯ ยุแหย่ให้เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด
แอนนา เอฟสติกนีวา รองผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “เราเสียใจที่ได้รับทราบว่าสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเลวร้ายลงอย่างมาก
“เหตุผลสำหรับเรื่องนี้นั้นชัดเจน นั่นคือความปรารถนาของวอชิงตันที่จะบังคับให้เปียงยางปลดอาวุธเพียงฝ่ายเดียวโดยใช้มาตรการคว่ำบาตร ใช้อำนาจกดดัน และใช้กำลัง” เธอกล่าวเสริมโดยพูดผ่านล่าม
ภาพ: Jung Yeon-je / AFP
อ้างอิง: