วันนี้ (1 พฤศจิกายน) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยระบุว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ขอเรียนอัปเดตข้อมูลว่า
- เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในงานเทศกาลคืนวันฮาโลวีน ที่จัดขึ้นในย่านถนนอิแทวอน กรุงโซล ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเบียดกันแน่น ล้ม และเหยียบกัน รวมทั้งขาดอากาศหายใจ (Stampede) โดยเฉพาะบริเวณซอยแคบทางลงถนนหลักบริเวณโรงแรม Hamilton
- ต่อมาคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2565 มีรายงานยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 155 คน และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 30 คน
- เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับรายงานจากตำรวจเกาหลีใต้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีคนไทย 1 คน เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางการเกาหลีใต้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของไทย และพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับเรื่องการจัดการศพ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือในการจัดการศพผู้เสียชีวิต รวมทั้งติดตามขอรับเงินเยียวยาจากทางการเกาหลีใต้ (หากมี) ต่อไป
- สำหรับคนไทยอีก 1 คนที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เคยได้รับแจ้งจากเพื่อนว่า ได้สูญหายไปภายหลังร่วมงานดังกล่าวนั้น ล่าสุดทราบว่าปลอดภัยดี
- เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ได้ส่งหนังสือแสดงความเสียใจมายังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรับทราบแล้ว
- นับจนถึงเช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ หรือสูญหายเพิ่มเติมภายหลังเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าว
- สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศแนะนำให้คนไทยในเกาหลีใต้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปท่องเที่ยวในงานเฉลิมฉลองที่อาจจะมีความหนาแน่นในช่วงนี้
ทั้งนี้ สามารถติดต่อ สอบถาม และตรวจสอบเกี่ยวกับคนสูญหายได้ที่ช่องทางของทางการเกาหลีใต้ เบอร์โทรศัพท์ 02 2199 8660 โดยหากคนไทยท่านใดต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 010-6747-0095 และ 010-3099-2955 ได้ตลอดเวลา
สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยได้ขอเบอร์โทรติดต่อกับพ่อผู้เสียชีวิต ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับทราบว่า พ่อยินยอมจะได้รับการติดต่อดังกล่าว ซึ่งน่าจะเป็นผลดีในกรณีที่ครอบครัวจะเดินทางไปเกาหลีใต้ หรือจะมีการมอบเงินเยียวยาต่อไปในอนาคต (หากมี)
ล่าสุด ครอบครัวได้มอบอำนาจให้สถานเอกอัครราชทูตฯ จัดการศพเรียบร้อยแล้ว โดยมีความประสงค์จะให้ส่งศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่ประเทศไทย ในชั้นนี้ยังรอว่าฝ่ายตำรวจเกาหลีใต้จะพร้อมให้รับศพออกจากโรงพยาบาลเมื่อไร