ไม่มีวิกฤตของบริษัทเทคยักษ์ไหนจะน่าจับตามองมากไปกว่า Facebook ที่เผชิญพายุร้ายมาตั้งแต่ต้นปี หุ้นของบริษัทแม่อย่าง Meta Platforms Inc. สูญเสียมาร์เก็ตแคปไปแล้ว 6.76 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 25.6 ล้านล้านบาทในปีนี้ ทำให้หลุดตำแหน่ง 20 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลก
หุ้นของ Meta ร่วงลง 24.5% ในวันที่ 27 ตุลาคม หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่พอใจนักของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ ทำให้หุ้นนั้นปิดที่ 97.94 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016
บริษัทแม่ของ Facebook รายงานรายรับรายไตรมาส 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงมากกว่า 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และลดลงติดต่อกันเป็นรายไตรมาสเป็นครั้งที่ 2 กำไรลดลง 52% เป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Metaverse เป็นเหตุ! ความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หายไปแล้ว 2.26 ล้านล้านบาท กลายเป็นคนที่รวยลดลงมากที่สุดในกลุ่มมหาเศรษฐีของโลก
- ผู้นำที่เลวร้าย! ผู้เชี่ยวชาญฮาร์วาร์ดวิเคราะห์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คือต้นเหตุที่ทำให้ Facebook หลงทาง
- ยังไหวแน่นะ Facebook! ‘มาร์ก’ ยืนยันเดินหน้าปั้น Metaverse แม้ขาดทุนแล้ว 7 แสนล้านบาท ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ลดต้นทุน และราคาหุ้นต่ำสุดตั้งแต่ปี 2016
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี Meta เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 เมื่อวัดตามมาร์เก็ตแคป โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อย้อนกลับไป 10 เดือนก่อนหน้า แต่ตอนนี้ตัวเลขเหลืออยู่เพียง 2.6 แสนดอลลาร์ รั้งอันดับที่ 27 ของบริษัทขนาดใหญ่ ตามหลังบริษัท เช่น Chevron, Eli Lilly & Co. และ Procter & Gamble
ครั้งหนึ่ง Meta เคยเป็นหุ้นที่รักของนักลงทุนใน Wall Street แต่ความโปรดปรานค่อยๆ หายไป และจากผลงานที่ไม่ค่อยดีในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ ได้แก่ Morgan Stanley, Cowen และ KeyBanc Capital Markets ได้ปรับลดอันดับเครดิตหุ้น
นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 105 ดอลลาร์ จาก 205 ดอลลาร์ เนื่องจากกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะสูงขึ้น เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ของ Cowen ที่ลดราคาเป้าหมายจาก 205 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ เป็น 135 ดอลลาร์
“Meta ยังคงแข็งกร้าวเกินไปกับการลงทุนในโครงการระยะยาว แม้ว่าการเติบโตของรายได้ที่คาดการณ์ไว้จะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยฉุดรั้งจากการลงทุนใน Metaverse” นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าว
Meta ประเมินว่าค่าใช้จ่ายในปีนี้จะอยู่ที่ราว 8.5-8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.6 หมื่นดอลลาร์ – 1.01 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนี่จะกลายเป็นข้อกังวลขนาดใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนหวังว่า Meta จะลดต้นทุนอย่างจริงจัง
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บอกว่าจะลงทุนใน Metaverse ทั้งที่ใช้เงินไปแล้วมากถึง 9.4 พันล้านดอลลาร์ เมื่อรวมกับการลงทุนในปีที่ผ่านมาอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ Metaverse ได้ล้างผลาญเงินลงทุนไปแล้วกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือสูงถึง 7 แสนล้านบาท
ตามข้อมูลของ Bloomberg ระบุว่า การลงทุนรายไตรมาสของ Meta มากกว่าตัวเลขของ 16 บริษัทที่อยู่ใน S&P 500 สำหรับการลงทุนในปีที่แล้วเสียอีก
ตั้งแต่ต้นปี หุ้น Meta ลดลงมากกว่า 61% อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแข่งขันจากคู่แข่งอย่าง TikTok รวมถึงการชะลอตัวในวงกว้างในการใช้จ่ายโฆษณาออนไลน์และความท้าทายจากการอัปเดตความเป็นส่วนตัว iOS ของ Apple
กระนั้นการมุ่งมั่นไปยังเทคโนโลยีในอนาคตที่เลือนรางและไม่ยอมฟังเสียงเตือนของนักลงทุน ทำให้ Facebook ถูกนำไปเปรียบเทียบกับวิกฤตของ IBM
“เช่นเดียวกับ IBM ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีไดโนเสาร์ 1.0 ตอนนี้ Meta จึงต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเป็นฟอสซิลรุ่นต่อไป” รายงานจาก Bloomberg ระบุ
ภาพ: Koshiro K / Shutterstock
อ้างอิง: