วันนี้ (22 ตุลาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, พินิจ กาญจนชูศักดิ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์, วัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์ ปฏิบัติภารกิจ ‘ผู้ว่าฯ สัญจร’ ที่เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อติดตามรับฟังภาพรวมการบริหารจัดการ ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานของเขตสัมพันธวงศ์
ชัชชาติกล่าวว่า เขตสัมพันธวงศ์เป็นเขตที่ขนาดเล็กที่สุดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีพื้นที่ 1.416 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณกว่า 20,000 คน แต่เป็นเขตที่สำคัญเพราะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ มีย่านสำคัญคือ เยาวราช ตลาดน้อย รวมทั้งมีแหล่งวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว มีศาสนสถานทั้งวัดไทย วัดจีน วัดญวน มัสยิด และโบสถ์คริสต์ ลักษณะเป็นพหุวัฒนธรรม
ปัญหาหลักของเขตสัมพันธวงศ์คือการค้าขาย โดยเฉพาะผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งปัจจุบันมีจุดที่เป็นพื้นที่ทำการค้าอยู่ 3 จุด ได้แก่ ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ และถนนข้าวหลาม มีผู้ค้า 447 ราย และมีผู้ค้านอกจุดทำการค้า 56 จุด มีจำนวนผู้ค้า 1,570 ราย เป็นคนที่ค้าขายมานาน
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า หลักการคือตามนโยบาย กทม. ไม่ได้ผ่อนผันให้มากขึ้น แต่ต้องจัดระเบียบให้ดี และจุดไหนที่จะนำเข้าระบบคงต้องคุยกับตำรวจอีกครั้ง หาบเร่แผงลอยไม่ใช่เรื่องสวัสดิการสังคม ต้องดูเรื่องความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ เน้นให้เทศกิจเข้มงวดในการจัดจำนวนผู้ค้า การลงทะเบียนในจุดผ่อนผัน ห้ามให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ต้องดูแลให้ดี ส่วนจุดที่ยังไม่ได้มีการอนุญาต ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาต้องดูให้ละเอียด เนื่องจากกระทบหลายส่วนหลายครอบครัว
เรื่องพื้นที่สีเขียวในเขตเขตสัมพันธวงศ์ มีพื้นที่สีเขียวน้อย อาจจะมีสวนสาธารณะอยู่บ้าง จึงสั่งเน้นไปทำพื้นที่สีเขียวบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม พื้นที่แนวดิ่งตามอาคาร (สวนแนวตั้ง) ช่วยดูดซับเรื่องฝุ่น พวกก๊าซมลพิษต่างๆ
ส่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จะมีจุดอ่อนอยู่ 2 ส่วน 1. จากน้ำฝน ได้แก่ ริมถนนเยาวราช ฝั่งทิศเหนือ อาจจะมีน้ำท่วมขัง ซึ่งต้องดูระบบระบายน้ำและการลอกท่อให้ครบถ้วน และ 2. น้ำหลากและน้ำทะเลหนุนประจำปี ได้แก่ บริเวณถนนทรงวาด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และบริเวณชุมชนตลาดน้อย (ศาลเจ้าโรงเกือก) ซึ่งไม่มีเขื่อนกั้น
“ทางเขตได้รายงานว่ามีการกั้นแนวกระสอบทรายและติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับมือไว้แล้ว ส่วนการทำเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอนนี้ได้รับประมาณและเตรียมดำเนินการจัดสร้างในเร็ววัน โดยสำนักการระบายน้ำ กทม. จะเป็นผู้ควบคุมดูแล” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวอีกว่า เรื่องนักท่องเที่ยวได้ให้ทางเทศกิจกับทางตำรวจร่วมมือกันตั้งจุดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยว ประสานให้ข้อมูลเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกหลอกลวง เพิ่มความเข้มงวดตรงนี้ เนื่องจากในอนาคตนักท่องเที่ยวจะกลับมาเยือนเมืองไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ เขตได้เสนอ 2 เรื่อง คือ อยากให้ทำที่จอดรถเพิ่มขึ้น เพราะว่าพื้นที่เขตปัจจุบันไม่มีที่จอดรถ และในเขตสัมพันธวงศ์เองพื้นที่จอดรถน้อย อาจจะต้องจอดตามวัด ต้องวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าอีกครั้งหนึ่ง และทางเขตสนใจที่จะทำทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางเดินขนาดเล็ก กว้างประมาณ 2 เมตร ความยาวประมาณ 1,888 เมตร เพื่อให้เกิดการสัญจรเชื่อมโยงในเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายเรื่องการเชื่อมโยงเส้นเลือดฝอย
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า แนวคิดคือการทำแนวทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เป็นทางเดินขนาดเล็กที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่ผ่านมาปัญหาที่ชาวบ้านไม่อยากให้ทำคือกลัวเรื่องความปลอดภัย กลัวเรื่องขโมย บางจุดริมน้ำอาจจะมีเลี้ยวเข้าไปในชุมชน เป็นทางเดินที่เชื่อมโยงกัน จะช่วยให้เส้นเลือดฝอยเข้าในพื้นที่ได้สะดวกขึ้น และประชาชนใช้สัญจรได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะต้องพิจารณาต่อไปในอนาคต