อันธการเข้าปกคลุมวงการฟุตบอลอเมริกัน หลังจากที่รายงานที่จัดทำโดยคณะกรรมการอิสระเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติที่ไม่เหมาะสม และการล่วงละเมิดทางเพศในวงการฟุตบอลอาชีพหญิงในสหรัฐอเมริกา ที่ส่งถึงสหพันธ์ฟุตบอลได้เปิดโปงความลับดำมืดที่คนภายนอกวงการไม่เคยล่วงรู้มาก่อน
รายงานความยาว 300 หน้าฉบับนี้ไม่ต่างอะไรจากกล่องที่เทพโพรมีธีอุส ผู้ลักเอาไฟจากภูเขาโอลิมปัสมามอบเป็นของขวัญแก่มนุษย์ สั่งห้ามมิให้แพนโดราหญิงสาวคนแรกของโลกเปิดออกอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าในกล่องที่มหาเทพซุสส่งมาให้นั้นจะมีอะไรก็ตาม
เมื่อความอยากรู้อยากเห็นมีมากเกินไป แพนโดราเปิดกล่องออกจึงทำให้สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรค ภัยพิบัติธรรมชาติ และอื่นๆ ต่างออกจากกล่องมาทำร้ายและทำลายมนุษย์ อันเป็นการแก้แค้นจากซุสต่อโพรมีธีอุส
สำหรับรายงานอื้อฉาวฉบับนี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวเลวทรามที่ยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลหญิงของประเทศที่อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และเป็นประเทศที่ถูกมองจากภายนอกว่าเป็นผู้เจริญแล้วในทุกด้าน
The New York Times ได้มีการยกตัวอย่างกรณีเลวร้ายจากรายงานฉบับดังกล่าว และขอย้ำว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริงใน National Women’s Soccer League (NWSL) ลีกฟุตบอลระดับสูงสุดของประเทศ เป็นสิ่งที่นักฟุตบอลสาวชาวอเมริกันประสบ
โดยที่ไม่มีใครคิดที่จะปกป้องพวกเธอแม้แต่น้อย
กรณีที่ 1: คริสตี ฮอลลี
คริสตี ฮอลลี เป็นอดีตโค้ชของทีมเรซิง หลุยส์วิลล์ ที่ถูกไล่ออกจากตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว โดยที่แทบไม่มีคำอธิบายที่แท้จริงถึงสาเหตุการโดนไล่ออก
สิ่งที่ทำให้ฮอลลีต้องโดนไล่ออกจากตำแหน่งเกิดจากความประพฤติที่เลวร้าย ซึ่งรวมถึงความพยายามล่วงละเมิดทางเพศ การสัมผัสนักฟุตบอลหญิงในทีมโดยปราศจากการยินยอม จนถึงการส่งข้อความในทางเพศที่ไม่เหมาะสม และยังมีการพยายามใช้อำนาจในการเป็นโค้ชเพื่อสำเร็จตัณหาของตัวเอง
ในรายงานเปิดเผยว่าครั้งหนึ่งฮอลลีได้เรียกนักฟุตบอลหญิงคนหนึ่งมาที่บ้าน โดยบอกว่าจะให้ดูเทปการเล่น แต่เมื่อนักฟุตบอลคนดังกล่าวมาถึงกลับเปิดหนังโป๊ให้ดู และสำเร็จความใคร่ต่อหน้านักฟุตบอลผู้โชคร้ายคนดังกล่าว
มีอีกหลายครั้งที่เขาเรียกมาเพื่อดูเทปการเล่นจริงๆ และเมื่อเห็นความผิดพลาดในการเล่น ฮอลลีฉวยโอกาสบีบหน้าอกและล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศ
เขายังส่งภาพเปลือยของเขาและบอกให้นักฟุตบอลในทีมส่งภาพโป๊กลับมาให้เขาด้วย ซึ่งนักฟุตบอลไม่มีทางเลือก และรู้สึกว่าถูกบังคับให้ทำแบบนั้น
สำหรับข้ออ้างที่เขาใช้คือการพยายามบอกว่านี่เป็นการผ่อนคลายกัน และการ ‘สนุก’ ไปกับเขาจะช่วยทำให้ฟอร์มการเล่นในสนามดีขึ้น
กรณีที่ 2: พอล ไรลีย์
พอล ไรลีย์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกไล่ออกจากทีมนอร์ท แคโรไลนา เคอเรจ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวอยู่พอสมควร
ความผิดของเขาคือการพยายามใช้ ‘ตำแหน่ง’ ในการบังคับให้นักฟุตบอลในทีมอย่างน้อย 3 คนมีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย
ในรายงานระบุว่า เรื่องราวความเลวร้ายของโค้ชคนนี้เหลือจะกล่าว เป็นที่อื้ออึงในหลายลีก หลายทีม และในหมู่นักฟุตบอล
นักฟุตบอลหญิงรายหนึ่งเปิดเผยว่า มีครั้งหนึ่งที่ไรลีย์ตามให้เธอไปดูเทปการเล่นในห้องพักที่โรงแรม แต่เมื่อไปถึงที่ห้องแล้วสิ่งที่เธอพบคือกลายเป็นโค้ชนุ่งกางเกงในตัวเดียวมาเปิดประตูให้ และบอกให้เธอขึ้นไปอยู่บนเตียง
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม แต่เมื่อรู้ตัวว่าในห้องไม่ได้มีการเปิดเทปการเล่นให้ดูบนโทรทัศน์ก็รีบผละออกมาทันที
“ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย ฉันไม่สนุกกับการเล่นฟุตบอลอีกเลย มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก”
กรณีที่ 3: รอรี เดมส์
อดีตโค้ชของทีมชิคาโก เรด สตาร์ส และทีมเยาวชนชิคาโก อีคลิปส์ ซีเลกต์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว ถูกตรวจสอบพบว่าได้พยายามสร้าง ‘ทีมฟุตบอลที่มีสภาพแวดล้อมในเรื่องทางเพศ’ ในทีมระดับเยาวชน
เดมส์เลวถึงขั้น “ล้ำเส้นในการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหลายกรณี แม้ว่าความสัมพันธ์เหล่านั้นจะมีต่อเมื่อนักฟุตบอลไม่เข้าข่ายเป็นผู้เยาว์แล้วเท่านั้น”
นักฟุตบอลหญิงคนหนึ่งในทีมเยาวชนอีคลิปส์เล่าว่า หลังการซ้อมวันหนึ่งเดมส์เสนอจะไปส่งที่บ้าน และระหว่างทางเขาพยายามถามเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือตลอดเวลา ซึ่ง “ถ้าฉันไม่ตอบเขาก็จะไม่ยอมไปส่งที่บ้าน”
ในรายงานยังระบุด้วยว่า เรื่องที่เดมส์จะใช้เวลาส่วนตัวในห้องกับนักฟุตบอลในทีมโดยที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วยนั้นเป็นเรื่องปกติ หรือแม้แต่การบุกไปถึงห้องนอนของเด็กสาวเหล่านี้ก็ตาม
นี่คือ 3 กรณีของโค้ชที่มีการกระทำล่วงละเมิดทางเพศต่อนักฟุตบอลหญิงแบบชัดเจน และยังมีอีกมากมายหลายกรณีที่มีการร้องเรียน แต่ไม่มีการดำเนินการสอบสวนอย่างเต็มที่ ซึ่งบ่อยครั้งที่โค้ชชั่วๆ เหล่านี้จะฉวยโอกาสย้ายไปคุมทีมที่อื่นต่อแบบเนียนๆ โดยที่ทีมใหม่เองก็อาจจะไม่ทราบเรื่อง
เหมือนเช่นในปี 2015 มีนักฟุตบอลหญิงคนหนึ่งร้องเรียนเรื่องความประพฤติที่ไม่เหมาะสมของไรลีย์ให้แก่ทีมพอร์ตแลนด์ ธอร์นส์ ต้นสังกัดในเวลานั้น และร้องเรียนไปยัง NWSL
แต่ในขณะที่ดำเนินการสอบสวนได้เพียงสัปดาห์เดียว ไรลีย์ก็ขอย้ายออกจากทีม โดยที่ทีมพอร์ตแลนด์ ธอร์นส์ก็ไม่ได้แจ้งต่อนักฟุตบอลในทีม หรือแจ้งต่อทีมอื่น หรือเปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาของโค้ชคนนี้ ทำให้เขาได้งานคุมทีมอื่นต่อไป
ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาคือการที่ไม่มี ‘ใครสักคนที่กล้า’ ที่จะเปิดโปงเรื่องเหล่านี้ออกมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายเมื่อคิดถึงการที่นักฟุตบอลหญิงต้องตกเป็น ‘เหยื่อ’ ของมารลูกหนังเหล่านี้ โดยที่ไม่มีใครให้พวกเธอหวังพึ่งพาหรือพร้อมจะปกป้องพวกเธอเลย ทำให้บางครั้งพวกเธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และด้วยรายงานฉบับนี้ทำให้โลกได้รับรู้ถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในดินแดนฟุตบอลที่ถูกมองจากภายนอกว่าสวยงาม
เบ็คกี เซาเออร์บรันน์ กัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดปัจจุบันเรียกร้องให้ ‘เจ้าของทีม’ หรือ ‘ผู้บริหาร’ ที่มีส่วนรู้เห็นปกป้องเกี่ยวกับการกระทำอันโสมมเหล่านี้ควรออกไปจากวงการ
“พวกคุณล้มเหลวในการปกป้องดูแลคนของพวกคุณ” เซาเออร์บรันน์กล่าว “และในความคิดเห็นของฉัน เจ้าของและผู้บริหารทุกทีม รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอล ที่ทำให้นักฟุตบอลผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ล้มเหลวในการปกป้องนักฟุตบอลเหล่านี้ และปกปิดเรื่องนี้ มีส่วนในการทำให้ไม่มีการสอบสวนเรื่องนี้อย่างที่ควรจะเป็น ขอให้ออกไปจากวงการเสีย”
นี่คือคำประกาศกร้าวของหนึ่งในนักฟุตบอลหญิงในดินแดนแห่งเสรีภาพที่จะไม่ยอมเห็นเพื่อนนักฟุตบอลคนไหนต้องกลายเป็นเหยื่อ และตกอยู่ในเงื้อมมือของคนชั่วที่แอบแฝงเข้ามาในวงการนี้อีก
แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้จริงๆ ไม่ได้อยู่ที่พวกเธอ
มันอยู่ที่ ‘พวกเขา’ และทุกคนที่ต้องจัดการเรื่องนี้อย่างสิ้นซาก อย่าให้เหลือเชื้อชั่วอยู่ในวงการอีกต่อไป
อ้างอิง:
- https://www.nytimes.com/interactive/2022/10/03/sports/soccer/soccer-abuse-read-report.html
- https://www.nytimes.com/2022/10/03/sports/soccer/soccer-abuse-report-takeaways.html
- https://www.nytimes.com/2022/10/03/sports/soccer/us-soccer-abuse-nwsl.html
- https://www.nytimes.com/2022/10/04/sports/soccer/soccer-abuse-power.html