เรื่องราวระหว่าง Scooter Braun กับ Taylor Swift เคยเป็นมหากาพย์ดราม่า โดยมีต้นเหตุมาจากการซื้อขายลิขสิทธิ์เพลงของเธอเมื่อหลายปีก่อน จนเป็นที่มาของการที่ Taylor Swift ประกาศอัดอัลบั้ม 6 ชุดแรกทั้งหมดใหม่อีกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ และสะเทือนวงการเพลงเป็นอย่างมาก
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 บริษัท Ithaca Holdings ของ Scooter Braun เข้าซื้อกิจการบริษัทสังกัดเก่าของ Taylor Swift อย่าง Big Machine Label Group ผู้ครอบครองอัลบั้ม 6 ชุดแรกของ Taylor Swift ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับ Taylor Swift อย่างใหญ่หลวง เนื่องจากทั้งสองเคยมีเรื่องดราม่ากันมาก่อนหน้านั้นแล้ว โดย Taylor Swift เรียก Scooter Braun ว่าเป็น “จอมบงการที่ชอบรังแกผู้อื่น”
เพียง 1 ปีหลังจากนั้นก็มีการรายงานข่าวใหญ่ว่า Scooter Braun ขายลิขสิทธิ์เพลงของ Taylor Swift ให้กับบริษัท Shamrock Holdings ในราคา 300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.14 หมื่นล้านบาท ซึ่ง Taylor Swift ก็ออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยเผยว่า “เป็นครั้งที่สองแล้วที่เพลงของฉันถูกขายไปโดยที่ฉันไม่รู้ ในจดหมายเขียนว่า พวกเขาอยากติดต่อฉันก่อนที่การซื้อขายจะเกิดขึ้น แต่ Scooter Braun สั่งห้ามไม่ให้พวกเขาติดต่อฉัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ทำข้อตกลงด้วย”
ล่าสุด Scooter Braun ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ The Limits with Jay Williams หลังเหตุการณ์ผ่านมาแล้วหลายปีว่า ในตอนนั้นเขาน่าจะรับมือกับสถานการณ์ด้วยวิธีที่แตกต่างออกไป
“ผมได้บทเรียนราคาแพง ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดเยอะมาก ผมว่ามันยากที่จะแก้ไขเมื่อคุณผิดใจกับใครคนหนึ่ง แล้วคนคนนั้นไม่อยากจะพูดคุยกับคุณ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมเสียดายก็คือการที่ผมคิดเอาเองว่า เมื่อมีการทำข้อตกลงแล้ว คนเหล่านั้นจะอยากพูดคุยกับผม เพื่อที่จะได้เห็นเจตนาหรือเห็นตัวตนของผม และเห็นชอบว่า ‘เยี่ยมเลย มาทำธุรกิจกันเถอะ’ ผมคิดเองว่าคนที่ผมไม่รู้จักจะเป็นแบบนั้น และผมก็ได้เรียนรู้แล้วว่า ผมไม่สามารถเหมารวมอะไรแบบนั้นได้อีกแล้ว
“ผมไม่ได้พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรอก ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ แต่ขณะเดียวกันผมก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายก็คงจะรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับพวกเขาเช่นกัน ผมจึงเลือกที่จะเรียนรู้มันไป เติบโตไปกับมัน และผมหวังว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องจะไปได้ดี ผมเอาใจช่วยให้ทุกคนชนะ เพราะผมไม่เชื่อในการหวังให้คนอื่นพบกับความพ่ายแพ้เลย”
อ้างอิง: