วานนี้ (30 กันยายน) ความคืบหน้าจากเหตุการณ์เจดีย์วัดศรีสุพรรณที่จังหวัดเชียงใหม่พังลงมา พบว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยในช่วงเช้ามีการประชุมปรึกษาระหว่างวัดศรีสุพรรณร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางดำเนินการ
นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่, เจ้าหน้าที่จากจังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลนครเชียงใหม่ และพระสงฆ์ ร่วมตรวจสอบความเสียหายบริเวณซากเจดีย์ที่พัง วัตถุมงคล และวัตถุโบราณที่อยู่ภายในเจดีย์ ก่อนจะลงทะเบียนจำนวนและประเภทสิ่งของทุกชิ้น เบื้องต้นมีพระธาตุจำนวน 83 เม็ดพระธาตุและของภายในเจดีย์อีกจำนวน 42 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูป
จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. มีการทำพิธีสวดถอนตามความเชื่อล้านนา โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดในเชียงใหม่มาทำพิธี หลังจากพิธีเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 7 ก็ได้ทำการค้ำยันเจดีย์ที่เหลือ เพื่อป้องกันการพังทลายลงมา เนื่องจากรอยแตกมีขนาดใหญ่ขึ้น
เทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเจดีย์ด้านในถือเป็นโบราณสถาน ส่วนด้านนอกเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อครอบเจดีย์เดิมไว้ สร้างจากปูนซีเมนต์โดยไม่มีโครงสร้างรองรับความแข็งแรง เบื้องต้นจะค้ำยันในส่วนของเจดีย์ที่เหลือ เนื่องจากพบร่องรอยแตกขยายตัวใหญ่ขึ้น เกรงว่าจะมีการพังถล่มซ้ำ ซึ่งการค้ำยันครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่การประคองตัวโครงสร้างที่เหลืออยู่ไม่ให้พังลงมาเท่านั้น จากนั้นคงต้องวางแผนบูรณะซ่อมแซมหรือก่อสร้างต่อไป
ภาพ: พงศ์มนัส ทาศิริ