เฮอริเคนฟิโอนา (Fiona) เริ่มพัดถล่มชายฝั่งแอตแลนติกของแคนาดา ส่งผลให้บางส่วนของรัฐโนวาสโกเชีย พรินซ์เอดเวิร์ดไอแลนด์ และนิวบรันสวิก เผชิญกับฝนตกหนัก และลมแรงถึง 148 กม./ชม. ขณะที่ประชาชนหลายแสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้
ศูนย์เฮอริเคนของแคนาดาเตือนก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวมาถึงว่า ฟิโอนาอาจเป็นเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 คน ซึ่งรวมถึงเด็กทารกอายุ 4 เดือนในเปอร์โตรีโก เมื่อฟิโอนาพาดผ่านภูมิภาคแคริบเบียน
“มันจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้าย” นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวเมื่อวันศุกร์ “เราขอให้ทุกคนปลอดภัย ฟังคำแนะนำของทางการท้องถิ่น และอดทนต่อไปอีก 24 ชั่วโมง”
ทั้งนี้ มีการออกคำเตือนเกี่ยวกับพายุโซนร้อนสำหรับรัฐที่อยู่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างโนวาสโกเชีย พรินซ์เอดเวิร์ดไอแลนด์ นิวฟันด์แลนด์ และนิวบรันสวิก รวมถึงบางส่วนของควิเบก โดยภาคตะวันออกของประเทศอาจรับน้ำฝนสูงถึง 10 นิ้ว (25 ซม.) ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ในโนวาสโกเชียนั้นมีการจัดเตรียมที่พักพิงชั่วคราวในเมืองแฮลิแฟกซ์และเคปบรีตัน เพื่อให้ประชาชนหลบภัยก่อนพายุเข้า
อแมนดา แมคดูกัล นายกเทศมนตรีเมืองเคปบรีตัน กล่าวว่า “เราเคยผ่านเหตุการณ์ประเภทนี้มาก่อน แต่ฉันไม่เคยกลัวมากขนาดนี้”
เหตุการณ์รุนแรงจากเฮอริเคนเกิดขึ้นไม่บ่อยในแคนาดา เนื่องจากพายุจะอ่อนกำลังลงเมื่อกระทบกับน่านน้ำที่เย็นกว่าทางตอนเหนือ และกลายเป็นพายุหมุนหลังเขตร้อน (Post-Tropical) แต่คาดว่าความกดอากาศที่ต่ำเป็นประวัติการณ์เมื่อเฮอริเคนฟิโอนาพัดถล่มภูมิภาคนี้ จะทำให้พายุมีกำลังรุนแรงขึ้น
ครั้งหลังสุดที่โนวาสโกเชียถูกพายุหมุนเขตร้อนพัดถล่มเกิดขึ้นเมื่อปี 2003 โดยเฮอริเคนฮวน (Juan) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงระดับ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมทั้งทำลายโครงสร้างและพืชพรรณให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
บ็อบ โรบิโชด์ นักอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ฟิโอนาจะใหญ่กว่าฮวน และแรงกว่าเฮอริเคนดอเรียน (Dorian) ในปี 2019
“มันจะเป็นเหตุการณ์สภาพภูมิอากาศสุดขั้วที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สำหรับชายฝั่งแอตแลนติกของแคนาดา”
ก่อนหน้านี้เกิดฝนตกหนักและลมแรงพัดถล่มเบอร์มิวดาในช่วงเช้าของวันศุกร์ ทำให้โรงเรียนและสถานที่ทำงานต่างๆ ต้องปิดทำการ ก่อนที่พายุจะพัดขึ้นเหนือ
นอกจากนี้ ฟิโอนายังได้สร้างความเสียหายให้กับเปอร์โตรีโกและสาธารณรัฐโดมินิกันเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยที่ประชาชนจำนวนมากยังคงไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้มาจนถึงตอนนี้
ภาพ: Drew Angerer / Getty Images
อ้างอิง: