กลายเป็นข่าวที่ปรากฏอยู่ในหน้านิวส์ฟีดและชิงพื้นที่ข่าวจากสื่อต่างๆ ตลอดทั้งวัน สำหรับกรณีที่นายเปรมชัย กรรณสูต และคณะ ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก เนื่องจากตรวจพบว่ามีการลักลอบตั้งแคมป์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต อีกทั้งบริเวณแคมป์ยังพบของกลางเป็นอาวุธปืนและซากสัตว์หายากอย่างเสือดำ ซึ่งถือเป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นกระแส ได้เกิดความเคลื่อนไหวจากหลากหลายหน่วยงานที่ทยอยออกมาชี้แจงแถลงไขกรณีดังกล่าวแบบรายชั่วโมง ซึ่ง THE STANDARD ได้ทำการรวบรวมความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจมาไว้ในที่เดียว
ผบช. ภาค 7 ลงลุยคดีเอง
ความคืบหน้ากรณีนี้ พล.ต.ท. กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พร้อมกำลังชุดพิสูจน์หลักฐานภาค 7 ได้เดินทางไปยัง สภ.ทองผาภูมิ เพื่อร่วมคลี่คลายคดีแล้ว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เขตทุ่งใหญ่ฯ ได้ทำการรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน ขณะที่ผู้ต้องหาที่ประกอบด้วย นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี และนายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี ได้ถูกควบคุมตัวในห้องสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ
ล่าสุดทนายความส่วนตัวของผู้ต้องหาได้เดินทางมาที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อนุญาตให้ 4 ผู้ต้องหาประกันตัวแล้วด้วยวงเงินคนละ 150,000 บาท
หัวหน้าเขตทุ่งนเรศวรไม่หวั่นไหว เพราะทำตามหน้าที่
ด้านนายธรรมรัฐ วงศ์โสภา รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า การขออนุญาตเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามปกติจะมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งเบื้องต้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ยื่นขออนุญาตเข้าพื้นที่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เอกสารไม่ครบถ้วน และต้องขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อนำมาพิจารณาอนุญาต ดังนั้นการเข้าพื้นที่่ของกลุ่มผู้ต้องหาจึงเป็นการเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษปรับ แต่การลักลอบล่าสัตว์ป่าถือเป็นคนละเรื่องกัน
ส่วนสาเหตุที่เรื่องล่าช้า เป็นเพราะเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นการจับกุม จึงต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อ แต่ยืนยันว่าแม้ผู้ต้องหาไม่รับสารภาพ ก็ต้องว่ากันตามพยานหลักฐานที่ปรากฏขณะจับกุม และพฤติการณ์ในการเข้าจับกุมเป็นหลัก ทั้งนี้อธิบดีกรมอุทยานได้กำชับให้ดำเนินคดีด้วยความรอบคอบ เพื่ออุดช่องว่างและนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณาคดี เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
ส่วนนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ได้กล่าวว่า กรณีที่เข้าจับกุมครั้งนี้เป็นการดำเนินการไปตามความเป็นจริง ไม่ได้กลั่นแกล้งบุคคลใด เพราะเมื่อกระทำผิดต้องปฏิบัติเหมือนกัน ไม่มีข้อยกเว้น และเมื่อดำเนินการไปแล้วก็ไม่ได้หวั่นไหวใดๆ เพราะทำตามหน้าที่
หัวหน้าชุดพญาเสือเผยซีอีโอคนดังเข้าพื้นที่มากกว่า 1 ครั้ง
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในวันนี้คือการชี้แจงของนายชัยวัฒน์ ลิมลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่เปิดเผยว่า การที่อุทยานอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั้น ได้กำหนดให้จุดพักแคมป์ห่างกันในระยะ 30 กิโลเมตร ซึ่งทางนายเปรมชัยแจ้งว่าจะไปตั้งแคมป์ในจุดดังกล่าว แต่ไม่ได้ไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบรถที่มาใช้บริการ พบว่ารถของคณะนายเปรมชัยมีการขออนุญาตเข้าพื้นที่ แต่ไม่ได้ไปถึงจุดที่กำหนดให้พัก จึงสันนิษฐานว่ารถต้องออกนอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังตรวจค้นจนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด โดยจุดที่นายเปรมชัยและคณะไปตั้งแคมป์นั้นถือเป็นพื้นที่แหล่งอาหารของสัตว์ป่า
ส่วนประเด็นการตรวจค้นอาวุธก่อนเข้าอุทยานฯ นั้น โดยปกติจะมีประชาชนเข้าออกอยู่ประจำ บางทีเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้ตรวจตราเข้มข้น 100% และไม่ได้ค้นรถทุกคัน ซึ่งทางประธานบริษัทก่อสร้างถือเป็นคนที่สังคมรู้จักและเป็นที่นับหน้าถือตา อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ไม่กล้าตรวจค้น
หัวหน้าชุดพญาเสือเปิดเผยเพิ่มเติมว่า หากดูจากการตั้งแคมป์ของนายเปรมชัย ทั้งสภาพการตั้งแคมป์และคนนำทางที่เป็นคนพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและราชบุรี จึงคาดได้ว่าน่าจะเคยเข้าไปตั้งแคมป์ในพื้นที่มากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
นักอนุรักษ์ตั้งข้อสังเกตคดีล่าช้า ชี้เสือดำคือตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์
THE STANDARD ได้ต่อสายเพื่อพูดคุยกับ นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ PPTV อดีตเลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กรรมการมูลนิธิโลกสีเขียว เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งนายวันชัยตั้งข้อสังเกตว่า
“ผมสงสัยว่าจับกุมได้ตั้งแต่วันที่ 4 แต่วันนี้วันที่ 6 แล้ว ทำไมเรื่องถึงค่อนข้างช้า ทั้งที่การเดินทางก็สะดวกสบาย จากทุ่งใหญ่นเรศวรถึงสถานีตำรวจก็ไม่ได้ลำบากเหมือนสมัยก่อน ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปคงถูกนำตัวไปดำเนินคดีแล้ว น่าสงสัยว่ามีการต่อรองอะไรกันหรือเปล่า”
นอกจากนี้นายวันชัยยังให้ข้อมูลว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรถือเป็นป่าที่มีความสำคัญอย่างมากของประเทศไทย เพราะนอกจากจะเป็นป่าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 1.3 ล้านไร่ และมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากแล้ว ป่าแห่งนี้ยังถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองโดยยูเนสโก ซึ่งเกิดจากการผลักดันของสืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ผู้ล่วงลับ อีกทั้งยังเป็นป่าที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถือเป็นดัชนีชี้วัดความยั่งยืนของประเทศไทยอีกด้วย
ส่วนกรณีที่ต้องการจะเข้าพื้นที่ดังกล่าวนั้น ประชาชนทั่วไปสามารถทำได้ แต่การขออนุญาตจะมีความเข้มข้นกว่าอุทยานแห่งชาติทั่วไป และต้องใช้เวลาในการขออนุญาตพอสมควร ซึ่งโดยปกติถ้าขออนุญาตแล้วทำตามระเบียบที่วางไว้ก็ไม่น่ามีปัญหา และมีหลายคนขออนุญาตเข้าไปศึกษาธรรมชาติหรือเดินป่าเป็นประจำอยู่แล้ว
สำหรับซากเสือดำที่พบจากการจับกุมครั้งนี้ นายวันชัยระบุว่า ตามธรรมชาติเสือถือเป็นสัตว์ผู้ล่าระดับสูง ดังนั้นการที่ป่ามีเสือจึงเป็นการสะท้อนว่าป่าแห่งนั้นมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก แต่เมื่อเสือหายไปอาจทำให้ปริมาณของเก้งกวางที่เป็นผู้ถูกล่าเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระบบนิเวศเสียสมดุล และอาจทำให้ปริมาณสัตว์ชนิดอื่นๆ ลดลงเนื่องจากมีการแย่งชิงอาหารกัน ในอีกแง่มุมหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าหากเสือถูกล่าจนสูญพันธุ์ เช่นเดียวกับเนื้อสมัน กวางที่สวยที่สุดในโลก ที่ประเทศไทยเคยมีแต่ตอนนี้ถูกล่าจนสูญพันธุ์จากโลกนี้ไปแล้ว
“ผมคิดว่าตอนนี้ปริมาณเสือดาว เสือดำ น่าจะมีเหลือเป็นหลักร้อยตัว ซึ่งไม่ใช่ปริมาณที่เยอะเลย เมื่อเทียบกับพื้นที่ป่าของทั้งประเทศ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก”
นอกจากนี้นายวันชัยยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมแสดงพลังในโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ทำให้เรื่องนี้เงียบหาย และสร้างแรงกดดันให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดเพื่อนำคนผิดมาลงโทษ
ภาพประกอบ: Thiencharas.w