×

รัสเซียบรรลุข้อตกลงจีนใช้เงิน ‘หยวน-รูเบิล’ จ่ายค่าก๊าซ หวังลดใช้เงินดอลลาร์

07.09.2022
  • LOADING...
รัสเซียบรรลุข้อตกลง

Gazprom รัฐวิสาหกิจน้ำมันขนาดใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ (6 กันยายน) ว่าทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับทางการจีน ที่จะเริ่มใช้สกุลเงินหยวนแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียโดยตรง แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐสำหรับการชำระค่าก๊าซ

 

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัสเซีย ในการลดการพึ่งพาสกุลเงินหลักที่มีอยู่ในระบบการค้าและการธนาคารอย่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือสกุลเงินยูโร เพื่อตอบโต้กับมาตรการคว่ำบาตรของบรรดาพันธมิตรชาติตะวันตกจากกรณีที่รัสเซียบุกยูเครน

 

โดยนับตั้งแต่เผชิญมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รัฐบาลรัสเซียได้เดินหน้าเร่งกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับบรรดาประเทศต่างๆ นอกเหนือจากชาติตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศจีนและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ในฐานะตลาดใหม่ของรัสเซียสำหรับการส่งออกก๊าซและน้ำมัน แหล่งรายได้หลักของประเทศ

 

Alexei Miller ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gazprom ระบุว่า การเปิดทางให้สามารถชำระเงินด้วยรูเบิลของรัสเซีย และหยวนของจีน ถือเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทั้ง Gazprom และคู่ค้าอย่าง China National Petroleum Corporation ของรัฐบาลจีน

 

ขณะเดียวกัน ซีอีโอของ Gazprom ยังย้ำอีกว่า การซื้อขายด้วยรูเบิลกับหยวนจะทำให้การคำนวณเป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น และจะกลายเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมสำหรับบริษัทอื่นๆ รวมถึงเป็นแรงผลักดันเพิ่มเติมในการพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซียกับจีนให้ก้าวสู่ระดับต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม Gazprom ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า คู่ค้าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มใช้รูเบิลกับหยวนแทนสกุลเงินดอลลาร์เมื่อใด

 

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งบีบให้บรรดาลูกค้า Gazprom ในภูมิภาคยุโรปเปิดบัญชีกับ Gazprombank เพื่อชำระค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิล หากไม่ยินยอมทางรัสเซียก็จะดำเนินการตัดออกจากระบบ โดยที่ผ่านมามีหลายบริษัทและหลายประเทศถูกสั่งระงับการส่งก๊าซให้ เพราะไม่ยินยอมทำตามเงื่อนไขของทางการรัสเซีย

 

นอกจากนี้ คืนก่อนหน้าที่รัสเซียจะบุกยูเครน ทางรัฐบาลรัสเซียยังได้ลงนามบรรลุข้อตกลงขยายปริมาณการส่งก๊าซให้กับจีนมูลค่ารวม 3.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรัสเซียเริ่มส่งออกก๊าซไปยังจีนผ่านท่อส่งก๊าซไซบีเรีย ซึ่งมีระยะทาง 3,000 กิโลเมตรในช่วงปลายปี 2019 ซึ่งประธานาธิบดีปูตินยกย่องความเคลื่อนไหวในครั้งนั้นว่า เป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง โดยไม่เพียงแต่สำคัญสำหรับตลาดพลังงานโลกเท่านั้น แต่ยังสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรัสเซียกับจีน

 

ในขณะที่รัสเซียกับจีนเดินหน้ายกระดับกระชับความสัมพันธ์ด้านพลังงานอย่างแน่นแฟ้น ประเทศที่เคยเป็นอดีตผู้นำเข้าก๊าซรายใหญ่ของรัสเซียอย่างเยอรมนีก็เร่งเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งหมายรวมถึงความตั้งใจในการลดการพึ่งพาพลังงานก๊าซจากรัสเซียด้วย หลังกรณีสงครามยูเครน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเยอรมนีเป็นไปในทิศทางเลวร้าย

 

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีประกาศเตรียมความพร้อมเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตาในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Isar 2 และ Neckarwestheim ทางตอนใต้ของประเทศ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่งมีสถานะสำรองไว้ใช้ได้เฉพาะในกรณีที่ประเทศไม่มีทางเลือกอื่น

 

รายงานระบุว่าการตัดสินใจของรัฐบาลเยอรมนีในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อรับมือกับปัญหาขาดแคลนพลังงานจากผลพวงของกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน

 

ทั้งนี้ เดิมทีเยอรมนีตั้งเป้ายุติการใช้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายในสิ้นปีนี้ แต่เพราะสถานการณ์ด้านพลังงานของประเทศในปัจจุบัน ทำให้ขณะนี้จำเป็นต้องวางแผนสำรองเตรียมเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 2 แห่งจากทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ให้พร้อมสำหรับการผลิตไฟฟ้าสำรองจนถึงช่วงกลางเดือนเมษายนปีหน้า

 

Robert Habeck รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (5 กันยายน) ว่า การพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์เป็นเพียงมาตรการเฉพาะหน้าชั่วคราว เพื่อนำพาประเทศก้าวผ่านฤดูหนาวไปให้ได้เท่านั้น ก่อนย้ำว่าเยอรมนีจำเป็นต้องเก็บทางเลือกนี้ไว้ หลังได้ยุติการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวไปแล้ว และรัฐบาลเยอรมนีจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ในยามที่จำเป็น

 

ขณะเดียวกัน Habeck ยังได้แสดงจุดยืน ยืนยันท่าทีของรัฐบาลที่ยังคงมองว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเทคโนโลยีที่มีความเสี่ยงสูง และต้องยุติการใช้งาน และจะยังคงเดินหน้าผลักดันให้ประเทศปลอดพลังงานนิวเคลียร์ต่อไปในระยะยาว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X