ตลาด หุ้นจีน เป็นหนึ่งตลาดหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากที่สุดตลาดหนึ่งในปีนี้ ข้อมูลจาก Morningstar Thailand ระบุว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กองทุนหุ้นจีนเป็นกองทุนตราสารทุนที่มีเงินทุนไหลเข้าสูงสุดรวม 1.4 หมื่นล้านบาท โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้าสุทธิ 2.6 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนของหุ้นจีนในปีนี้อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หลายคนคาดหวัง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีหุ้นจีนอย่าง CSI300 ติดลบอยู่ 18% แม้จะมีช่วงของการฟื้นตัวดีในไตรมาส 2 แต่ด้วยการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ทำให้ทางการจีนกลับมาล็อกดาวน์ในหลายเมืองสำคัญอีกครั้ง และยังคงยึดมั่นต่อนโยบาย Zero-Covid ต่อไป
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การกลับมาระบาดของโควิดและการกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง เป็นสาเหตุที่ทำให้ GDP ของจีนถูกปรับลดคาดการณ์ลงอีกระลอกเช่นกัน
“เมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ผู้คนยังพูดถึง GDP ในระดับ 5% แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ลดลงจนมาเหลือเพียง 3.5% ซึ่งก็สอดคล้องกับกำไรของหุ้นจีนที่ถูกปรับคาดการณ์ลง”
อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิดรอบนี้คงจะไม่เลวร้ายเท่ากับช่วงต้นปี แต่เป็นลักษณะของการทำให้ความคาดหวังลดลง หลังจากที่นักลงทุนค่อนข้างมองบวกก่อนหน้านี้ ซึ่งการปรับตัวลงของหุ้นจีนในครั้งนี้คงจะไม่ถึงกับเป็นจุดต่ำสุดใหม่อีกรอบ
ในแง่ผลกระทบต่อหุ้นไทย หากยังคงมีการล็อกดาวน์ต่อเนื่องก็อาจจะนำไปสู่ปัญหา Supply Disruption คล้ายกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การขนส่งติดขัด สินค้าบางส่วน เช่น ชิปหรือชิ้นส่วนสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ขาดแคลน ฉะนั้นแล้วอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผลกระทบก็อาจจะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ หรือโลจิสติกส์
“ก่อนหน้านี้เราค่อนข้างมองบวกต่อจีน ด้วยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายสวนทางกับประเทศส่วนใหญ่ แต่ภาพกลับตาลปัตร เพราะจีนยังคงแน่วแน่กับนโยบาย Zero-Covid ซึ่งคงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาดหุ้นจีนในไตรมาส 4”
ส่วนอีกประเด็นที่ต้องติดตามคือปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะหลายบริษัทก็เริ่มเผยให้เห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า นับแต่ 22 กรกฎาคม ยอดผู้ติดเชื้อโควิดเฉลี่ย 7 วันทั่วประเทศจีน พุ่งขึ้นเป็น 1,572 ราย จนถึง ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 ในขณะที่ตลาดกำลังคาดหวังเชิงบวกว่าทางการจีนจะผ่อนคลายมาตรการ Zero-Covid ในการประชุมประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระหว่างวันที่ 16-22 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เราประเมินว่าตลาดกำลังมองบวกมากเกินไป และการระบาดของโควิดมีโอกาสรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ทำให้ทางการจีนอาจใช้มาตรการ Zero-Covid ต่อไปจนถึงเดือนมีนาคม 2566 เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ จากกรณีที่เมืองเฉิงตูมีการล็อกดาวน์เข้มงวด อาจกระทบต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่าง HANA ที่มีฐานลูกค้าอย่าง Toyota และ Volkswagen ขณะที่ KCE และ DELTA อาจจะได้ประโยชน์จากการย้ายคำสั่งผลิตจาก DELTA จีน มายังไทยที่ปลอดภัยกว่า
เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าไอทีที่มีสัดส่วนยอดขายสินค้า Apple สูง มีความเสี่ยงขาดแคลนสินค้าจำหน่ายกรณีโรงงาน Foxconn ที่ตั้งอยู่ในเมืองเฉิงตู
นอกจากนี้ในกรณีที่สถานการณ์ยืดเยื้อและทำให้มาตรการ Zero-Covid ยังคงดำเนินต่อไป อาจกระทบต่อหุ้นกลุ่มโรงแรมและการบิน จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อาจต่ำกว่าคาดในปีหน้า รวมทั้งกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศหากยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามามากนัก รวมไปถึงกลุ่มพลังงานที่มีสัดส่วนในจีนบ้างเล็กน้อย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP