วันนี้ (4 สิงหาคม) ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการใช้เทคโนโลยีของพรรคไทยสร้างไทยเพื่อการสร้างประชาธิปไตยโดยตรงว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิ มีเสียงในการตัดสินใจที่สำคัญทางการเมือง ที่ไม่ใช่แค่เพียงวันกากบาทเลือกตั้งเพียงวันเดียว แต่ในทุกกระบวนการทางกฎหมายและการตัดสินใจของรัฐบาลที่ส่งผลกระทบกับประชาชน ซึ่งหากพรรคไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล จะใช้เทคโนโลยีมาให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง
นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทยจะนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับคนไทย เช่น ในด้านสาธารณสุข พรรคจะต่อยอดจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นโครงการ 30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า พรรคจึงสร้างระบบ ไทยสร้างไทย Digital Health เพื่อดูแลเรื่องการสร้างสุขภาพและการรักษา โดยประชาชนสามารถเลือกโรงพยาบาลได้เอง สามารถนัดหมายและพูดคุยกับหมอได้โดยไม่ต้องรอคิวนาน รวมถึงสามารถรับยาได้โดยไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลเอง
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่ออีกว่า จะมีการเก็บข้อมูลทำระบบ Big Data เพื่อเตรียมพร้อมวางแผนการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านการรักษาพยาบาล และบริหารจัดการคุณภาพในการป้องกันโรคจากระบบ Big Data เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยของประชาชนให้แข็งแรงก่อนป่วย รวยก่อนแก่ เป็นผู้สูงอายุที่สุขภาพดี ซึ่งจะนำระบบไทยสร้างไทย Digital Health มาต่อยอดในโครงการบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทด้วย
นอกจากนั้น พรรคไทยสร้างไทยจะนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยนด้วยระบบ ไทยสร้างไทย Digital Education เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการนำครูผู้สอนที่เก่งๆ เช่น การค้าขายออนไลน์ตามกรุงเทพฯ ไปสู่ยอดดอย และตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ซึ่งจะต่อยอดเป็น Metaverse ในอนาคต เพื่อทำให้เด็กนักเรียนสามารถสัมผัสประสบการณ์จริงกับครูผู้สอนที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ในคุณภาพเดียวกัน จากครูผู้สอนที่เด็กนักเรียนต้องการเรียนด้วย
ด้าน ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ หัวหน้าทีมดิจิทัล พรรคไทยสร้างไทย ได้กล่าวเสนอวิสัยทัศน์ในหัวข้อ ปลดล็อกประเทศไทยด้วยดิจิทัล โดยกล่าวว่า การสร้างประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมสูง ที่จะทำให้ผลของการใช้สิทธิออกเสียงเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกับพี่น้องประชาชน มีปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ ประกอบด้วย
- การมีส่วนร่วมของประชาชนที่มากพอในแต่ละประเด็น
- การที่ประชาชนต้องรู้และเข้าใจในประเด็นต่างๆ ที่ต้องใช้สิทธิออกเสียง
จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน รองรับ Active Citizen มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคไทยสร้างไทยเคยนำเสนอแนวคิดนี้ในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เช่น การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง และได้รับการตอบแทนเป็น Bangkok Token ที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ทางพรรคจึงต่อยอดไปในระดับประเทศโดยใช้แพลตฟอร์ม Citizen Force ที่จะดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง
ขณะที่ เจตุบัญชา อํารุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวสรุปว่า แนวคิดดังกล่าวเกิดจากการมองถึงหัวใจของปัญหาทางสังคม การแก้คอร์รัปชัน การบริการพี่น้องประชาชน ความเท่าเทียมและความยุติธรรม การตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ จะทำให้ประชาชนมีความสนใจทางการเมืองมากขึ้น และหากเราปลดล็อกเรื่องดังกล่าวได้ ภาครัฐจะสามารถทำงานให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำนโยบาย การใช้จ่ายงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนก็จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ตรงความต้องการและตอบโจทย์พี่น้องประชาชน และจะทำให้การจัดทำนโยบายของฝ่ายบริหารทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาตรงจุด จนสามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตได้ในที่สุด