ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 สิงหาคม) ดัชนี SET ปิดตลาดที่ 1,626.52 จุด ลดลง 18.26 จุด หรือ 1.11% โดยในช่วงเช้าดัชนีเปิดลบเกือบ 25 จุด ก่อนจะลดช่วงลบมาเหลือเพียง 10 จุดในระหว่างวัน แต่สุดท้ายดัชนีก็กลับมาไหลลงอีกครั้ง
ส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมตลอดทั้งวันในวันนี้อยู่ที่ระดับ 71,417 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิรวม 107 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 3,674 ล้านบาท พอร์ตลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 25 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศเป็นผู้ซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียวที่ 3,806 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปซึ่งเปิดทำการในช่วงบ่ายตามเวลาประเทศไทย โดยภาพรวมแต่ละประเทศติดลบไปราว 1-2% ต่อเนื่องจากการลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 สิงหาคม)
ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นตั้งแต่วันศุกร์มาจากการออกมาส่งสัญญาณของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในระดับสูงต่อไป
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การส่งสัญญาณของประธาน Fed คงจะไม่สามารถต่างไปจากที่พูดได้นัก โดยยังเป็นการเน้นย้ำในเรื่องของความพยายามควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนก็อาจจะใช้ประเด็นดังกล่าวมาเป็นเหตุผลในการขายทำกำไร
“ก่อนหน้านี้นักลงทุนหลายคนคาดหวังว่า Fed อาจจะขึ้นดอกเบี้ยแค่ 0.5% แต่การพูดครั้งนี้ตอกย้ำว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะยังอยู่ที่ 0.75% และจากสัญญาณของ Fed Fund Futures ก็สะท้อนว่านักลงทุนราว 70% เชื่อว่าดอกเบี้ยจะขึ้น 0.75%”
อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ร้าย ยังมีนักลงทุนอีก 30% ที่ยังเชื่อว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เพราะฉะนั้นก่อนการประชุม Fed ครั้งหน้า นักลงทุนในกลุ่ม 30% อาจจะเปลี่ยนความคิดและเริ่ม Price in การขึ้นดอกเบี้ยระดับ 0.75%
“หากคนกลุ่มนี้เปลี่ยนความคิด เงินดอลลาร์จะแข็งมากขึ้น ขณะที่บอนด์ยีลด์รุ่นสั้นก็จะปรับขึ้นต่อ และสิ่งที่ต้องจับตาคือตัวเลขฟันด์โฟลวจากนี้ไป ซึ่งคาดว่าน่าจะไหลออกจากหุ้นไทยในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการล็อกกำไร หลังจากซื้อสุทธิหุ้นไทยมาต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ หากดูจากการซื้อสะสมใน Futures ด้วยสถานะ Long ประมาณ 1.2 แสนสัญญา ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงจูงใจในการขายออกมา และอาจทำให้ฟันด์โฟลวในระยะถัดไปเป็นฝั่งขาออก หรือดีสุดแค่เพียงทรงตัว
ในระยะสั้นประเมินกรอบดัชนี SET ที่ 1,610-1,650 จุด หลังจากนี้คงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น การจ้างงาน การผลิต ขณะที่เศรษฐกิจไทยต้องติดตามเรื่องของดุลบัญชีเดินสะพัด หลังจากที่ดุลการค้าออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ คือ ขาดดุลไป 3.7 พันล้านบาท จากการส่งออกที่แย่กว่าคาด และด้วยค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นก็อาจกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะถัดไป
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP