ไหนใครอยากเป็นเศรษฐี? (ก็ฉันน่ะสิ ก็ฉันน่ะสิ!) วันนี้มีเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินมาฝาก ถึงวิธีการที่จะทำให้รำ่รวยได้โดยไม่ต้องรอความหวังในทุกวันที่ 1 และ 16 เพียงแต่ ‘เส้นทางเศรษฐี’ ที่ว่านี้มันจะยากเป็นพิเศษกว่าวิธีอื่นๆ
วิธีการที่จะประสบความสำเร็จทางการเงิน สิ่งที่เหล่าคนรวยทำทุกวันแต่คนทั่วไปไม่ได้ทำนั้น ในทางวิชาการแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินอย่าง Tom Corley ผู้แต่งหนังสือ Rich Habits ซึ่งใช้เวลากว่า 5 ปีในการสำรวจกิจวัตรชีวิตประจำวันของมหาเศรษฐีกว่า 233 คน และสามารถแยกออกมาได้ 4 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่
- เส้นทางสายการเก็บเงิน-ลงทุน: ไม่ว่างานประจำวันของคนกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาก็จะคิดถึงเรื่องของการเก็บเงินและนำเงินเก็บนั้นแยกร่างไปลงทุนอีกที คิดที่จะหาวิธีให้ทรัพย์สินนั้นงอกเงยตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางเศรษฐีแบบพื้นฐานทั่วไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นักเศรษฐศาสตร์จากฮาร์วาร์ดชี้ หากคบ ‘เพื่อนรวย’ ตั้งแต่เด็ก จะทำให้รายได้ในอนาคตเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20%
- ‘4 อุปนิสัย’ ที่ทำให้คนรวย ‘รวยยิ่งขึ้น!’ บทสรุปจากการสัมภาษณ์เศรษฐี 225 คน
- เงินเฟ้อพุ่ง-ตลาดหุ้นซบเซา เอาเงินไปเก็บใน ของสะสม ชนิดไหนดี?
- เส้นทางสายบริษัท: เส้นทางเศรษฐีสำหรับสายพนักงานประจำที่เข้าทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ และทุ่มเททั้งชีวิต จิตวิญญาณ เพื่อที่จะให้ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปจนกระทั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ซึ่งแน่นอนงานยาก ความรับผิดชอบเยอะ ก็แลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงลิบเป็นธรรมดา
- เส้นทางสายอัจฉริยะ: หรือทางสายผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกาจหนักหนาในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เช่น เก่งในเรื่องของการสอนการเงินการลงทุน หรือทำอาหารเก่ง หรือวาดรูปเก่ง ค่าทักษะความสามารถเหล่านี้ก็จะสูงตามฝีมือและชื่อเสียง
- เส้นทางนักฝัน: เส้นทางสำหรับคนมีความฝันและทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ซึ่งเป็นได้ทั้งการเป็นนักแสดง นักร้อง นักดนตรี นักเขียนชื่อดัง ไปจนถึงการทำธุรกิจของตัวเอง สร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา เปลี่ยนเอาความฝัน ความรัก ความลุ่มหลง มาเป็นตัวเลขในบัญชีธนาคาร
ทีนี้อยากรู้หรือยังว่าเส้นทางไหนที่จะทำให้รวยได้ไวที่สุด? คำตอบก็คือเส้นทางที่ 4 หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษแบบเท่ๆ ว่า The Dreamers Path โดยในการสำรวจของผู้แต่งหนังสือ Rich Habits นั้นระบุว่า มีจำนวนแค่ 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และคนกลุ่มนี้มีเงินเฉลี่ย 7.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าอีก 3 กลุ่มด้วยกัน และที่สำคัญคือใช้เวลาในการเป็นเศรษฐีไม่ถึง 12 ปี
เรียกได้ว่านี่คือเส้นทางที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดและรวดเร็วที่สุดด้วย ยิ่งถ้าเราไปดูรายชื่อมหาเศรษฐี 400 อันดับแรกของโลกโดย Forbes เราก็จะเห็นได้ชัดว่า 7 จาก 10 อันดับแรกอย่าง เจฟฟ์ เบโซส์, บิล เกตส์, มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือ ไมเคิล บลูมเบิร์ก นั้นล้วนแต่สร้างตัวเองจากธุรกิจที่กลายมาเป็นอาณาจักรในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาเพื่อเป็นแบบนี้ได้ เพราะการจะเปลี่ยนความฝันให้เป็นอาชีพที่ประสบความสำเร็จได้นั้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุด เสี่ยงที่สุด และเต็มไปด้วยความเครียดมากที่สุด ซึ่งเหล่า Dreamers Path จะต้องแลกความสำเร็จมาด้วยชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาทำงาน 65-75 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (หรือเฉลี่ยวันละ 13-15 ชั่วโมงในวันทำงาน) โดยที่แทบจะไม่มีวันหยุดเลย และแน่นอนว่าบางครั้งแทบไม่เจอครอบครัวหรือเพื่อนเลย
อีกทั้งกว่าที่ความฝันจะกลายเป็นความจริงได้พวกเขาต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย บางครั้งเงินแทบไม่พอยาไส้ ไม่นับความล้มเหลวนับไม่ถ้วนที่ทำให้ต้องจมอยู่กับความท้อแท้มากมายซึ่งหลายต่อหลายคนถอดใจไม่ขอไปตามเส้นทางนี้ ความเสี่ยงจากการเดิมพันเอาชีวิตและเส้นทางการทำงาน ซึ่งบางทีเหล่าคนใกล้ตัวผู้หวังดีอาจจะเป็นห่วงและแนะนำให้ยอมทิ้งเส้นทางนี้เพื่อไปหาเลี้ยงชีพแบบธรรมดาแทน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการจะเป็นเศรษฐีในเส้นทางที่ไวที่สุดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเต็มพิกัด มีเป้าหมายในใจที่ชัดเจน พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องทุกวัน มีความคิดแบบ ‘Must Do Now’ คือต้องทำตอนนี้ ไม่เสียเวลารีรอ และไม่กลัวความผิดหวัง
แต่ถ้าคิดว่าทำได้ อยากรวย ก็ลองดู เป็นกำลังใจให้เสมอ!
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP