ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.50% ในการประชุมวานนี้ (25 สิงหาคม) ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์หลายสำนัก หลังอัตราเงินเฟ้อของประเทศปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 20 ปี พร้อมตัดลดคาดการณ์การเติบโตของประเทศในปีนี้
รายงานระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOK ครั้งนี้ นับเป็นการปรับขึ้นติดต่อกัน 4 ครั้งเป็นครั้งแรก และถือเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่ที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 13 เดือนเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เพื่อยกเลิกการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่นำมาบังคับใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่โควิดระบาด และเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนถึงขณะนี้ BOK ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยรวมกันทั้งสิ้นแล้วที่ 2%
รีชางยง ผู้ว่าการ BOK กล่าวว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็วนี้ เป็นไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจากปัญหาพลังงานราคาแพงและราคานำเข้าสินค้าสำคัญชนิดอื่นๆ พุ่งสูงขึ้น หลังเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานแบบเรื้อรังจากผลพวงของสงครามในยูเครน
การตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ของสมาชิกคณะกรรมการทั้ง 7 ของแบงก์ชาติเกาหลีใต้ มีขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 24 ปี โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเกาหลีใต้อยู่ที่ 2.5% เพิ่มขึ้นจาก 1.25% ในเดือนมกราคม และขยับใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดที่ 3% ตามที่คาดการณ์ไว้ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการแบงก์ชาติเกาหลีใต้ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือประมาณต้นเดือนตุลาคม กระนั้นเกาหลีใต้จะยังต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่แพงขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5% แม้ว่าจะถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม
BOK ยังได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับปี 2022 เป็น 5.2% จาก 4.5% ซึ่งเป็นประมาณการสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1998 ที่ทาง BOK ประกาศให้ความสำคัญกับราคา และเริ่มเผยเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ 2% ตั้งแต่ปี 2019
สำหรับปี 2023 แบงก์ชาติเกาหลีใต้คาดว่า อัตราเงินเฟ้อประจำปีน่าจะปรับตัวลดลงแตะ 3.7%
ขณะเดียวกัน BOK ยังปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปีนี้ลงเหลือ 2.6% จาก 2.7% ก่อนหน้านี้ ขณะที่ผลผลิตทางเศรษฐกิจหดตัวอีกในปีหน้าเป็น 2.1%
สำหรับในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ BOK ระบุว่า เศรษฐกิจที่นำโดยภาคการส่งออกจะเห็นโมเมนตัมการเติบโตที่อ่อนตัวลงจากการชะลอตัวเชิงลึกในเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของเกาหลีใต้ พร้อมเสริมว่า แนวโน้มอาจดำเนินไปถึงปีหน้า
วันเดียวกันเว็บไซต์ข่าว The Korea Herald ของเกาหลีใต้ ได้เผยแพร่รายงานความเห็นของบรรดาค่ายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ ที่ออกมากล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้าอย่างน้อย 1 แสนคันที่สร้างขึ้นที่เกาหลีใต้ จะต้องเผชิญกับการหยุดชะงักในการส่งออกทุกปีภายใต้กฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่รวมยานพาหนะที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ จากเครดิตภาษี
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP