วันนี้ (16 สิงหาคม) กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้ร่วมฝึกซ้อมรบป้องกันขีปนาวุธนอกชายฝั่งฮาวายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณของทั้งสามชาติที่ผนึกกำลังกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามจากจีนและเกาหลีเหนือ
แถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า การซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8-14 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ทั้งสามชาติเห็นพ้องให้จัดการซ้อมรบในการประชุมระดับรัฐมนตรีที่สิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน ถือเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการรับมือกับความท้าทายจากเกาหลีเหนือ พร้อมปกป้องความมั่นคงของทุกฝ่าย และส่งเสริมความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้เดินหน้ายกระดับขีปนาวุธของประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมทดสอบขีปนาวุธตัวใหม่ที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความสามารถในการควบคุมทิศทางและระดับการบินที่ดีขึ้น ขณะที่ทั้งสามประเทศต่างกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมพร้อมที่จะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกัน การที่จีนเปิดฉากซ้อมรบเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ โดยมีการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะหลักของไต้หวัน และมีบางส่วนไปตกลงในน่านน้ำของพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (Exclusive Economic Zone) ก็ได้ทวีความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นด้วย
โดยปกติแล้ว การซ้อมรบในระดับไตรภาคีจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2012 อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 และ 2020 ทั้งสามชาติได้ระงับการซ้อมรบ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เผชิญความตึงเครียดอย่างหนักในช่วงปีดังกล่าว จากชนวนความขัดแย้งในอดีตตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนล่าสุด ซึ่งเพิ่งขึ้นครองตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ได้ให้คำมั่นว่า เขาจะฟื้นความสัมพันธ์อันดีกับญี่ปุ่นอีกครั้ง และจะกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม เพื่อป้องปรามเกาหลีเหนือให้อยู่หมัด ซึ่งรวมถึงการขยายขอบเขตและเดินหน้าจัดการซ้อมรบร่วมต่อไป ซึ่งประจวบเหมาะกับที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ก็ต้องการที่จะกระชับความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายในภูมิภาคเอเชียตั้งแต่ประเด็นความมั่นคงไปจนถึงการแก้ปัญหาซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์
ภาพ: South Korean Defense Ministry via Getty Images
อ้างอิง: