วันนี้ (15 สิงหาคม) ที่กองบังคับการปราบปราม รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา 13 ตัวแทนครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้สถานบันเทิง Mountain B ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ขอให้โอนสำนวนคดีมาให้ตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบ เนื่องจากเกรงถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และมองว่าตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
รณณรงค์กล่าวว่า วันนี้นำข้อมูลหลักฐานบางส่วนมาให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้โอนคดีกลับมา เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจในพื้นที่ ซึ่งการให้ตำรวจกองปราบปรามรับสอบสวนดำเนินคดีนี้ จะทำให้พยานมีความมั่นใจในการเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจมากขึ้น
โดยยืนยันให้ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบใน 3 ประเด็นที่ว่า สถานบันเทิงดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ และสถานบันเทิงแห่งนี้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่เจ้าของผับที่ถูกดำเนินคดีไม่ใช่เจ้าของสถานประกอบการดังกล่าวตัวจริง
ส่วนความรู้สึกบางส่วนของตัวแทนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบและเดินทางมาในวันนี้ ส่วนใหญ่บอกว่าค่าชดใช้เยียวยาที่ผู้ประกอบการจ่ายให้ไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาล และไม่สามารถทดแทนความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ โดย อภิชัย อินศิริ พ่อของ อาทิตยา อินศิริ ผู้เสียชีวิตคนที่ 19 ของเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องการเยียวยา ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งในเรื่องของคดีความ ซึ่งลูกสาวตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ โดยที่ผ่านมามีตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงให้ความช่วยเหลือมา 30,000 บาท แต่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย
ด้าน ยุพิน ทองนก แม่ของ ลัดดาวัลย์ เกษกร ผู้บาดเจ็บ เป็นอีกหนึ่งคนที่ยอมรับว่าตัวแทนเจ้าของสถานบันเทิงติดต่อขอให้ช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 30,000 บาทเช่นกัน และอ้างว่าให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งครอบครัวมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าลูกสาวควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ เพราะมีบาดแผลที่เกี่ยวกับการศัลยกรรม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ตามร่างกายหลายแห่ง