จากกรณีที่กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และ กลุ่ม Start Up People ได้นัดหมายจัดกิจกรรม ‘นัดรวมพลประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านสืบทอดอำนาจ คสช.’ พร้อมทั้งเปิดปราศรัยย่อยผ่านเครื่องขยายเสียงและโทรโข่งบริเวณลานสกายวอล์ก เขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันเสาร์ (27 ม.ค.) ที่ผ่านมา
กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกผู้เข้าร่วมชุมนุมมารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 39 คน ในความผิดร่วมกันชุมนุมในรัศมี 150 เมตรจากเขตพระราชฐานตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พุทธศักราช 2558 มาตรา 7 วรรคแรก และกำลังพิจารณาที่จะออกหมายเรียกเพิ่มเติมอีก 66 รายชื่อ
สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยออกแถลงการณ์ล่าสุด เรื่อง ข้อกังวลต่อกรณีการออกหมายเรียกประชาชนที่ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีรายละเอียดโดยสรุปคือ
สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความกังวลต่อการละเลยหลักนิติรัฐ ในการล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่มีจุดยืนเห็นต่างจากรัฐบาล และกังวลต่อการใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่มาบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นการเลื่อนการจัดเลือกตั้งออกไป
รวมถึงกรณีที่ประชาชนตั้งคำถามต่อ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวควรเป็นสิทธิและเสรีภาพโดยพื้นฐานของประชาชนชาวไทยที่สามารถกระทำได้
ขณะที่ในแถลงการณ์ตอนท้ายระบุว่า สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอยืนหยัดในการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวไทยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยการทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสะท้อนถึงข้อห่วงใยต่างๆ จากหลายภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ‘ภาคประชาชน’ ด้วยเจตนารมณ์ที่ยึดถือกันเป็นหลักเสมอมาว่า จะธำรงไว้ซึ่ง ‘เกียรติภูมิจุฬาฯ’ อันเป็น ‘เกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน’