เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (4 สิงหาคม) มีชาวอเมริกัน 3 ราย เสียชีวิตจากเหตุฟ้าผ่าบริเวณจัตุรัสลาฟาแยตต์ ซึ่งอยู่ใกล้กับทำเนียบขาว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
ผู้เสียชีวิต ได้แก่ เจมส์ มูลเลอร์ วัย 76 ปี และ ดอนนา มูลเลอร์ วัย 75 ปี สองสามีภรรยาที่เดินทางมาจากรัฐวิสคอนซิน เพื่อฉลองวันครบรอบแต่งงานปีที่ 56 ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นชายวัย 29 ปีที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 4 ราย อยู่ใกล้กับต้นไม้ขณะที่ฝนฟ้าคะนองหนัก เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
แครีน ฌอง ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในแถลงการณ์วานนี้ (5 สิงหาคม) ว่า “เรารู้สึกเสียใจกับการสูญเสียอันน่าสลดหลังเกิดเหตุฟ้าผ่าในลาฟาแยตต์พาร์ก เราขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก”
จอห์น เจนซีเนียส ผู้เชี่ยวชาญจากสภาความปลอดภัยจากเหตุฟ้าผ่าแห่งชาติ (National Lightning Safety Council) เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ถือเป็นเหยื่อจากเหตุฟ้าผ่าในสหรัฐฯ รายที่ 10-12 ของปีนี้
เจนซีเนียสกล่าวว่า “เหตุการณ์นี้ได้ตอกย้ำให้เห็นว่า ทุกคนจะต้องรีบหลบไปยังที่ปลอดภัยทุกครั้งที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง แม้จะได้ยินเสียงฟ้าร้องอยู่ไกล ก็ควรหาที่หลบเข้าไปในอาคารให้เร็วที่สุด” เนื่องจากการหลบอยู่ใต้ต้นไม้ขณะฝนตกนั้นเป็นอันตราย เพราะสายฟ้ามักจะผ่าสิ่งที่มีลักษณะสูงและมียอดแหลม เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือเสาอากาศ ฯลฯ
ภาพ: Den Rozhnovsky Via Shutterstock
อ้างอิง: