กูรูตลาดเงินตลาดทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในวันพรุ่งนี้ (4 สิงหาคม ตามเวลาอังกฤษ) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่สุดนับจากปี 1997 หรือในรอบ 25 ปี และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นเป็น 1.75% ทั้งนี้ เพื่อสู้กับวิกฤตเงินเฟ้อที่แตะระดับสุงสุดรอบ 40 ปีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ 9.4%
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997 และหากเป็นไปตามตลาดคาดการณ์ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับขึ้นเป็น 1.75%
รายงานข่าวระบุว่า สาเหตุที่ BOE เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยเมื่อเดือนมิถุนายนนี้ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรแตะระดับ 9.4% ซึ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้วิกฤตค่าครองชีพครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ให้สุนทรพจน์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินจำเป็นต้องพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.50% เพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2% ตามเป้าหมาย
ขณะที่ผลสำรวจของ Reuters ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดการณ์ว่า BOE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
เจมส์ สมิธ นักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วของ ING กล่าวว่า แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิถุนายน แต่ความมุ่งมั่นก่อนหน้าของ กนง. ที่จะดำเนินการด้านนโยบายการเงินแบบบังคับเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ กำลังบ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่ง
“อย่างไรก็ตาม โอกาสในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้เต็มเพดานแล้ว โดยตลาดได้ลดความคาดหวังต่อเพดานอัตราดอกเบี้ยจาก 3.5% เป็น 2.9% แล้ว แม้ว่านั่นจะหมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% อีก 2 ครั้งภายในเดือนธันวาคมปีนี้ และปรับขึ้นครั้งย่อยอีกหนึ่งครั้งปีหน้าก็ตาม” สมิธกล่าว
สมิธกล่าวว่าประเด็นสำคัญที่ต้องระวังในรายงานของวันพฤหัสบดีคือ BOE ยังคงใช้คำว่า ‘แบบบังคับ’ ต่อไปหรือไม่ รวมถึงการคาดการณ์แนวโน้มของ BOE
หวั่นเศรษฐกิจถูกฉุดรั้ง
ท่าทีที่เป็นสายเหยี่ยวมากขึ้นของ BOE จะทำให้แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของ BOE ใกล้เคียงกับเส้นทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเพิ่งประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% และ 0.50% เมื่อเดือนที่แล้วตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม แม้การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะทำให้ความน่าเชื่อของธนาคารกลางเพิ่มขึ้นในด้านการต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจขาลงด้วยเช่นกัน
แคลลัม พิกเคอริง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Berenberg กล่าวผ่านเอกสารเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (1 สิงหาคม) ว่า แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BOE มีแนวโน้มที่จะยึดตามความเห็นของ กนง. ทั้ง 9 คนซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ ดังนั้น หากมีการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในวันพฤหัสบดี และคาดการณ์ว่าด้วยอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่า BOE จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือนกันยายน
“หลังจากนั้น แนวโน้มยังเป็นไปด้วยความไม่แน่นอน อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะสูงสุดในเดือนตุลาคมเมื่อราคาพลังงานในครัวเรือนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางข้อบ่งชี้ที่เพิ่มขึ้นว่าสภาวะทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอัตราเงินเฟ้อ เราจึงคาดว่า BOE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนพฤศจิกายน แต่ยุติวงจรขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม” พิกเคอริงกล่าว
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2022/08/03/bank-of-england-set-for-biggest-rate-hike-in-27-years-as-inflation-soars.html
- https://www.ft.com/content/3eb06681-9705-4c10-af71-3c6ed4dce648
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP