หลังจากชาว จีน ต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นหลายต่อหลายครั้งภายใต้มาตรการ Zero-COVID ของรัฐบาลจีน ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประเทศถูกกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Henley & Partners บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานการลงทุน ประเมินว่า มีกลุ่มมหาเศรษฐีราว 10,000 คน มีความต้องการที่จะย้ายถิ่นฐานออกจากจีนพร้อมกับเงินลงทุนราว 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนเศรษฐีที่ต้องการย้ายถิ่นฐานมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากรัสเซีย ซึ่งถูกประเมินว่ามีเศรษฐีต้องการย้ายออกราว 15,000 คน
คำถามที่ตามมาสำหรับบรรดาเศรษฐีชาวจีนเหล่านี้คือ รัฐบาลจีนจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยังไม่ได้มีมาตรการควบคุมหรือสั่งห้ามใดๆ เกี่ยวกับการย้ายประเทศ แต่การจะย้ายออกก็ยากลำบากมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นสำหรับการจัดการเรื่องของวีซ่า รวมทั้งเรื่องของเอกสารที่ยุ่งยากมากขึ้น
Nick Thomas ผู้ช่วยศาสตราจารย์ของ City University of Hong Kong กล่าวว่า การที่ผู้คนและเงินทุนไหลออกเป็นความสูญเสียต่อเศรษฐกิจจีนอย่างชัดเจน
ขณะที่หนึ่งในเจ้าของร้านอาหารในเซี่ยงไฮ้ตัดสินใจที่จะย้ายไปแคนาดา โดยขายหุ้นในส่วนของร้านอาหารแห่งนี้ด้วยมูลค่า 20 ล้านหยวน หรือราว 3 ล้านดอลลาร์ โดยสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจย้ายมาจากการล็อกดาวน์ในช่วงแรก ซึ่งเขาเปิดเผยว่า “ช่วงแรกของการล็อกดาวน์ผมหิวจนเกือบจะต้องตายทั้งๆ ที่อาศัยในเมืองที่พัฒนามากที่สุดในจีน ผมเศร้ามาก แต่มันถึงเวลาที่จะต้องย้ายแล้ว”
ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาด้านการย้ายประเทศในจีนบอกว่า ความต้องการที่จะย้ายประเทศเพิ่มขึ้น 3-5 เท่า ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเซี่ยงไฮ้กลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง รวมถึงความต้องการที่จะขนเงินออกนอกประเทศก็พุ่งสูงเช่นกัน
สำหรับประเทศที่เป็นที่นิยมสำหรับการย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่คือ สหรัฐฯ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา และบางประเทศในยุโรป แต่ประเทศเหล่านี้เริ่มเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับวีซ่าประเภทนักลงทุน ทำให้ประเทศอย่างสเปน โปรตุเกส หรือไอร์แลนด์ เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากความเข้มงวดที่น้อยกว่า
เมื่อปี 2021 สิงคโปร์มีออฟฟิศสำหรับธุรกิจครอบครัวเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเทียบกับปีก่อนหน้า จากความต้องการของครอบครัวนักธุรกิจจีน
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในการย้ายประเทศก็เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะมาตรการของทางรัฐบาลจีนที่พยายามลดการเดินทางออกนอกประเทศหากไม่จำเป็นอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของจีนเปิดเผยว่า ทางการจะจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศสำหรับชาวจีนมากขึ้น
ขณะที่แหล่งข่าวที่ปรึกษาอีกแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะยังต้องเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ ดูจะมีโอกาสที่ดีกว่าสำหรับการทำธุรกิจ โดยที่ชาวจีนยังมีความกลัวต่อการกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้งอย่างในเซี่ยงไฮ้และอีกหลายๆ เมือง
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP