ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี รองศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกตั้ง วิเคราะห์ 4 ข้อสำคัญ จากผลการเลือกตั้ง กทม. สะท้อนถึงปรากฏการณ์ชัชชาติ
คลิกอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม
1. การเลือกตั้งครั้งนี้อนุรักษ์นิยมไร้ตัวเลือกที่มีคุณสมบัติแบบชัชชาติ
จึงเป็นปัจจัยหนึ่งของการถูกแม่เหล็กของชัชชาติดึงคะแนนจากพวกเขามาได้ ซึ่งอนุรักษ์นิยมสายก้าวหน้าให้คุณค่าทางการเมืองกับความขยัน อดทน ไม่มีปัญหาคอร์รัปชัน ทำงาน นอบน้อมถ่อมตัว ชัชชาติคืออุดมคติของอนุรักษ์นิยม เมื่อดูจากประวัติครอบครัว จุดยืน มุมมอง ทัศนคติ เขาเป็นอนุรักษ์นิยม แต่ด้วยการเมืองไทยที่บิดเบี้ยวทำให้ผลักชัชชาติมาเป็นนักการเมืองของฝั่งเสรีนิยม และเป็นเหตุผลทำให้ชัชชาติเป็นแม่เหล็กที่ดูดคะแนนได้จากทุกฝ่าย
2. เส้นทางการเมืองในอนาคตถัดจากผู้ว่าฯ กทม.
สิริพรรณมองว่าชัชชาติควรผ่าน 2 วาระ 8 ปี ในบทบาทผู้ว่าฯ กทม. ทำฐานให้แน่นก่อน ส่วนที่มีคนอยากให้ลงนายกฯ อาจติดด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญปัจจุบันทำให้ลงอิสระไม่ได้ ต้องมีพรรคเสนอชื่อ มีเสียงยกมือจาก ส.ส. ในสภาสนับสนุน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แตกต่างจากสนามท้องถิ่นที่ลงอิสระได้
3. เกราะสำคัญของชัชชาติ
คือการที่ตอนนี้ขั้วการเมืองอนุรักษ์นิยมไม่มีตัวเลือกอื่นๆ ที่จะมีคุณสมบัติแบบคุณชัชชาติ สิริพรรณตั้งคำถามเน้นๆ ถึงขั้วการเมืองอนุรักษ์นิยมว่า
“ถ้าคุณล้มคุณชัชชาติระหว่างทางกลางคัน คุณจะมีใครมาเป็นผู้บริหารกรุงเทพฯ ในอุดมคติของคุณที่จะมาแทนชัชชาติ ตัวเลือกที่เหลืออยู่ คุณพอใจจริงๆ หรือเปล่า”
4. ต่อประเด็นร้อนแรงแหลมคมทางการเมือง การชุมนุมเรียกร้องต่างๆ ที่อาจมีวิกฤตให้ชัชชาติในฐานะพ่อเมืองต้องแสดงท่าที แสดงจุดยืน
สิริพรรณมองว่าชัชชาติสามารถแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถแสดงท่าทีอย่างมีวุฒิภาวะ ซึ่งเปิดช่องของความเป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหาในอนาคต ชัชชาติสามารถตอบให้ประเด็นทางการเมืองที่ร้อนแรง ปรับมาเป็นประเด็นเชิงนโยบายที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนเอามาคิดร่วมกันและเปิดความเป็นไปได้อื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ขาวหรือดำ แต่เปิดพื้นที่ในเฉดสีมากมายให้ลดความขัดแย้งได้