วันนี้ (9 มิถุนายน) คือวันแรกที่กฎหมายปลดล็อกกัญชามีผลบังคับใช้โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ชี้แจงจุดยืนของการปลดล็อกกัญชาในครั้งนี้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง
ซึ่งเมื่อการปลดล็อกกัญชามีผล ประชาชนสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ปลูกได้ แต่ต้องจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน
- ซื้อ-ขายได้
- ครอบครองได้ แต่ถ้ามีสารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC เกินกว่า 0.2% โดยไม่มีใบอนุญาต, ไม่มีใบสั่งแพทย์, ไม่ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือสารสกัดนั้นมาจากนอกประเทศไทย ยังถือว่ามีความผิด
โดยวันนี้บรรยากาศที่ร้าน Highland Cafe ซึ่งตั้งอยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เปิดให้บริการจำหน่ายกัญชาตั้งแต่ช่วงเวลา 09.09 น. โดยมีลูกค้ามากหน้าหลายตาและหลากหลายช่วงวัย ซึ่งทางร้านจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำกัญชาในแต่ละรูปแบบ แต่ละสายพันธุ์ ให้มีความเหมาะสมกับผู้ที่มาซื้อและประโยชน์ที่ต้องการใช้งาน แม้ปัจจุบันจะอยู่ในช่วงสุญญากาศที่ยังไม่มีกฎหมายมาควบคุม แต่ที่ร้านแห่งนี้ยังตรวจบัตรประชาชนและสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนจำหน่าย
แม้หลายฝ่ายจะออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับช่วงรอยต่อที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัวหรือเด็ก รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. เน้นย้ำว่าการปลดล็อกก็เพื่อให้ใช้ในด้านของสุขภาพ ไม่ใช่การใช้เพื่อสันทนาการ
ทั้งนี้เมื่อวานนี้ (8 มิถุนายน) สภาผู้แทนราษฎรเพิ่งมีมติเอกฉันท์ผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง และร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง ในวาระที่ 1 ซึ่งจะมีเวลาในการแปรญัตติอีก 15 วัน ก่อนกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภา ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่จะมาควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ในไทย หลังปลดพ้นจากบัญชียาเสพติด