สำรวจมูลค่าการลงทุนสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศเทียบกับนักลงทุนต่างชาติในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ และย้อนหลังกลับไป 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า 5 เดือนแรกต่างชาติสร้างปรากฏการณ์เข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยมากถึง 1.3 แสนล้านบาท สวนทางสถิติในอดีตที่เป็นการขายสุทธิ และยังเป็นการซื้อสุทธิหุ้นไทยมากสุดเทียบกับตลาดหุ้นเอเชียอีก 4 แห่ง
ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศนั้น ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ขายสุทธิ 9.1 หมื่นล้านบาท สวนทางสถิติในอดีตเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เฉพาะเดือนพฤษภาคม 2565 สถาบันในประเทศเริ่มเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยเป็น 3.7 พันล้านบาท ท่ามกลางคำแนะนำจากสำนักวิจัยหลายแห่ง ที่แนะนำให้นักลงทุนถือเงินสดเพื่อลดความเสี่ยงจากการหักหัวลงของดัชนี
และเมื่อมองไปข้างหน้า ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องจาก 2 ปัจจัยบวกคือ ผลประกอบการไตรมาส 1/65 ยังยืนอยู่ในระดับสูง และประเทศไทยมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยและช้าเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว
โดยคาดการณ์ว่าเงินลงทุนต่างชาติจะเข้าซื้อ
- หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นเด่นคือ PTTEP, BANPU, IVL, TOP และ BGRIM
- หุ้นอิงกับการเปิดเมือง หุ้นเด่นคือ CK, BEM, MAJOR และ KBANK
- หุ้นกลุ่มอาหาร หุ้นเด่นคือ GFPTและ CPF
