วานนี้ (27 พฤษภาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย พินิจ กาญจนชูศักดิ์ ว่าที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตสัมพันธวงศ์ พรรคประชาธิปัตย์ และ อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมชมงานศิลปะภายในชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ถนนเยาวราช จัดโดยภาคประชาสังคมกลุ่มดินสอสี ที่เดินหน้าจัดเทศกาลศิลปะชุมชนตามย่านต่างๆ ของ กทม. มาอย่างต่อเนื่อง
ชัชชาติกล่าวว่า ชุมชนเลื่อนฤทธิ์เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นตึกเก่า เช่าพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่ผู้เช่ารายเดิมได้รวมตัวกันจัดตั้งบริษัท ขอเช่าพื้นที่ระยะยาว ต่อมาได้ปรับปรุงอาคารใหม่ซึ่งมีความแข็งแรงและสวยงาม โดยคงโครงสร้างอาคารเดิมไว้ มีการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน รวมทั้งทำบ่อบำบัดน้ำเสีย ทำให้น่าเดินเที่ยว จากนั้นพัฒนาต่อยอดเป็นพื้นที่ศิลปะสร้างสรรค์ ส่งเสริมการแสดงออกรูปแบบต่างๆ เช่น การแสดงดนตรี และการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านศิลปะ
ชัชชาติระบุว่า แนวคิดนี้สอดคล้องกับนโยบายของตนที่มุ่งมั่นจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพราะคนรุ่นใหม่สามารถสร้างมูลค่าให้กับงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ได้ คนรุ่นใหม่อาจไม่ได้ทำงานประจำอีกต่อไป แต่จะสร้างงานได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นพื้นที่สร้างสรรค์ที่มีคุณค่าเช่นนี้ควรกระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ เพราะยังมีจำนวนไม่เพียงพอ ต้องมีการขยายพื้นที่สร้างสรรค์ให้มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ตลอดจนเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอีกด้วย
“ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของสุนทรียศาสตร์ เป็นเรื่องของความจรรโลงใจ หากเราอยากจะเสพงานศิลป์ แต่บางพื้นที่มีจำกัด จริงๆ ควรมีนิทรรศการหมุนเวียนไปตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้คนมีทางเลือกมากขึ้น มากกว่าดูหนังตามห้าง การดูงานศิลป์ การฟังดนตรีที่เข้าถึงได้ง่ายทำให้ชีวิตเรามีทางเลือกในการพักผ่อน เพื่อให้เรามีความสุขมากขึ้น รวมถึงการสร้างงานใหม่ๆ ต่อยอดสู่งานเศรษฐกิจสร้างสรรรค์ได้” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวต่อว่า ต้องการผลักดันนโยบาย 50 ย่าน 50 อัตลักษณ์ ให้เป็นเครื่องมือพัฒนาพื้นที่ชุมชนต่างๆ ในอนาคต เพราะเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับชุมชน พร้อมยืนยันว่าทุกย่านมีศักยภาพในการพัฒนา Soft Power เป็นของตัวเองได้ ทั้งนี้ ต้องยึดหลักความเข้าใจชุมชนเป็นที่ตั้งในการผลักดัน Soft Power รายเขตให้เกิดขึ้นจริง