วันนี้ (25 พฤษภาคม) ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวขอให้รัฐสภาทบทวนการใช้งานสโมสรของรัฐสภา ที่จะมีห้องสันทนาการ สปา ลู่วิ่ง ห้องซ้อมลีลาศ ห้องซ้อมร้องเพลง ห้องนวดฝ่าเท้า นวดแผนโบราณ และห้องตีกอล์ฟ ว่าได้หารือเรื่องนี้ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเช้า เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่ต้องทบทวน ทั้งด้านความจำเป็นและความเหมาะสมในการใช้งบประมาณก่อสร้างสโมสรรัฐสภาทั้งหมด
ทั้งนี้ ปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า เนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมาคณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา ได้นำสื่อมวลชนชมสโมสรรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาหลายท่านร่วมชมด้วย ปรากฏว่าเป็นที่น่าตกใจ เนื่องจากมีห้องต่างๆ ที่ต้องบอกว่าเกินจำเป็น ซึ่งพวกตนไม่ได้เป็นผู้ติดตามแผนโครงการนี้แต่แรก แต่คิดว่าสื่อมวลชนและประชาชนคงเห็นกันอยู่ว่า ตลอดเวลาที่เปิดใช้รัฐสภาแห่งนี้มา พื้นที่สำหรับคนทำงานมันน้อยเหลือเกิน เจ้าหน้าที่รัฐสภาแทบไม่มีพื้นที่ในการทำงาน เอกสารกองไม่เป็นที่ สื่อมวลชนต้องอยู่ภายในพื้นที่ที่จำกัด มีน้ำรั่วจากฝนตกทุกครั้ง
“แต่รัฐสภากลับจะเอาพื้นที่ไปทำเป็นสโมสรสันทนาการทั้งที่ไม่จำเป็น ส่วนตัวผมพยายามผลักดันเรื่องห้องที่จำเป็นอย่าง ห้องให้นมเด็ก เนื่องจากรัฐสภาของเรามีเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้หญิงกว่า 1,000 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีหลายคนที่ตั้งครรภ์หรือมีลูกเล็ก ที่สภาควรมีพื้นที่อำนวยความสะดวกให้ รวมถึงกรณีที่ ส.ส. หญิงตั้งครรภ์ ก็ควรมีที่สำหรับพักผ่อน ให้นมบุตรได้ และควรต้องมีพื้นที่สำหรับเลี้ยงดูบุตรโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้รบกวนช่วงที่พ่อแม่ทำงาน ผมคิดว่าออกแบบการใช้พื้นที่แบบนี้จึงจะมีประโยชน์มากกว่า”
ปดิพัทธ์กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ในสภาวะที่ประเทศกำลังขาดแคลนงบประมาณในหลายส่วน กลับให้ความสำคัญกับสโมสรรัฐสภา การให้มีการนวดแพทย์แผนไทยเพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการอภิปรายใหญ่ อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งคราวก็คงได้ แต่ถ้าหากมีถาวรคงไม่จำเป็น เพราะที่นี่เป็นสถานที่ทำงาน ไม่ใช่สถานที่สำหรับการเอ็นเตอร์เทน ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการพิจารณาทบทวนเรื่องนี้