รัฐบาลรัสเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ (18 พฤษภาคม) ว่ามีทหารยูเครนที่ปักหลักป้องกันเมืองมาริอูโปล ยอมวางอาวุธเพิ่มอีก 694 นาย ส่งผลให้จำนวนทหารยูเครนภายในเมืองที่ยอมจำนนต่อรัสเซียเพิ่มเป็นทั้งหมด 959 นายแล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพยูเครนสั่งการให้กำลังทหารที่ตรึงกำลังอยู่ภายในบังเกอร์ใต้ดินของโรงงานเหล็ก Azovstal ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายบริเวณท่าเรือของเมืองมาริอูโปล ยอมยุติการต่อสู้และวางอาวุธ ภายหลังการเจรจาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เพื่อเปิดเส้นทางฉนวนมนุษยธรรม
โดยเมื่อวันอังคาร (17 พฤษภาคม) มีรายงานว่า ทหารยูเครนมากกว่า 250 นาย ยอมวางอาวุธและได้รับการอพยพออกมาจากโรงงานเหล็ก ซึ่งกว่า 50 นาย มีอาการบาดเจ็บ และทั้งหมดถูกนำตัวขึ้นรถบัสไปยังพื้นที่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า ทหารยูเครนจากมาริอูโปลจำนวน 908 นาย ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำในเมืองโอเลนิฟกาของแคว้นโดเนตสก์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซีย ส่วนอีก 51 นายที่บาดเจ็บยังอยู่ระหว่างการรักษา ซึ่งเธอยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ทหารยูเครนที่บาดเจ็บ ‘จะได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพ’
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้โพสต์คลิปวิดีโอยืนยันว่า ทหารยูเครนที่บาดเจ็บนั้นได้รับการรักษาอยู่ภายในโรงพยาบาลที่เมืองโนโวซอฟสก์ ซึ่งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์เช่นกัน
ด้าน เดนิส ปูชิลิน ผู้นำกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียที่เข้าควบคุมพื้นที่เมืองมาริอูโปล ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นระบุว่า ยังมีผู้บัญชาการระดับสูงสุดของหน่วยทหารยูเครนในมาริอูโปล หลบซ่อนอยู่ภายในโรงงานเหล็กและไม่ยอมวางอาวุธ
ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีทหารยูเครนเหลืออยู่ในโรงงานเหล็กอีกกี่นาย โดยโฆษกกองทัพยูเครนระบุว่าทางการกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือทหารทั้งหมดออกมา และเตือนว่าการเปิดเผยข้อมูลใดๆ ต่อสาธารณะอาจทำให้ทหารเหล่านี้ตกอยู่ในอันตราย
ภาพ: Photo by Russian Defense Ministry / Handout / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: