ล็อกดาวน์จีนสะเทือนถึงซีแอตเทิล Starbucks งดคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการปี 2022 เนื่องจากการล็อกดาวน์ในจีนกระทบยอดขาย รวมถึงเงินเฟ้อ และการลงทุนในร้านค้าและพนักงาน ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2 มีกำไร 674.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Starbucks งดประเมินแนวโน้มผลประกอบการปี 2022 หลังจากเผชิญปัจจัยลบจากการล็อกดาวน์เมืองในจีนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายในจีนให้ลดลงถึง 23%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ยังสามารถชดเชยยอดขายที่หายไปในจีนได้อยู่ ส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 2 ปี 2022 สูงกว่าคาดการณ์
โดยเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา Starbucks รายงานว่า มีรายได้อยู่ที่ 7.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14.5% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 674.5 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 58 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 659.4 ล้านดอลลาร์ หรือ 56 เซนต์ต่อหุ้นในปีช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ ยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7% ในไตรมาสนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ขณะที่ยอดขายสาขาเดิมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12% เนื่องจากลูกค้ามียอดใช้จ่ายต่อออร์เดอร์สูงขึ้นและเข้าจับจ่ายในร้านเพิ่มขึ้น โดย ณ ไตรมาส 2 ปี 2022 มีลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 17% เป็น 26.7 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดต่างประเทศยังน่ากังวลสำหรับ Starbucks โดยยอดขายสาขาเดิมในต่างประเทศลดลง 8% โดยตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีสัดส่วนยอดขายอันดับ 2 ของยอดขายรวม มียอดขายสาขาเดิมลดลง 23% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากจีนกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งหลังเกิดการระบาดของโควิด
ผู้บริหาร Starbucks กล่าวว่าร้าน Starbucks ราว 72% ในจีน ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดและการล็อกดาวน์ โดยประมาณ 1 ใน 3 ของร้าน Starbucks ในจีนปิดทำการชั่วคราว หรือขายเฉพพาะในช่องทางออนไลน์เท่านั้น
เบลินดา หว่อง ประธานของ Starbucks ในจีน กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิดและการล็อกดาวน์เมืองสำคัญในจีนจะกดดันผลประกอบการของ Starbucks ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3
ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2022 Starbucks เปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้น 313 แห่ง
นอกจากนี้การลงทุนในร้านค้าและพนักงานของ Starbucks ก็ยังน่ากังวล แม้ว่ากระแสการบริโภคกาแฟ Starbucks ในสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง แต่บาริสต้าของบริษัทก็รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องค่าจ้างและสวัสดิการที่ดีขึ้นมาเป็นระยะเวลา 6 เดือน ขณะที่ โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ซึ่งกลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราวในช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ได้หยุดการซื้อคืนหุ้นชั่วคราว และเริ่มต้นแคมเปญรับฟังความคิดเห็นกับบาริสต้าทั่วประเทศ เพื่อควบคุมสหภาพแรงงานที่กำลังแข็งแกร่งขึ้น
โดยชูลท์ซได้ประกาศงบลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2022 ในการปรับขึ้นค่าจ้าง ปรับปรุงหลักสูตรฝึกอบรม และสร้างนวัตกรรมจัดเก็บคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านกาแฟจะไม่เพิ่มผลประโยชน์ให้กับพนักงานในร้านกาแฟที่จัดตั้งสหภาพแรงงาน โดยพนักงานในสาขาเหล่านี้จะได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อได้เจรจาต่อรองจากบริษัทเท่านั้น
จากปัจจัยการปิดเมืองในจีน อัตราเงินเฟ้อ และการลงทุนในร้านค้าและพนักงาน Starbucks จึงยังไม่คาดการณ์แนวโน้มหรือเป้าหมายผลประกอบการในปีนี้
อ้างอิง: