‘เงินบาท’ สัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าแตะระดับ 34.50 เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปี สอดคล้องกับสกุลเงินเอเชีย นำโดยเงินเยนและเงินหยวน ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าต้องจับตาผลประชุม Fed ใกล้ชิด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เงินบาทเผชิญแรงขายตามทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดยเงินเยน ที่ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี และเงินหยวน ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง โดยการอ่อนค่าของสกุลเงินเหล่านี้ เป็นการอ่อนลงตามสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ถูกคาดหมายว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% พร้อมกับปรับลดงบดุลในเดือนพฤษภาคม และมีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อสหรัฐฯ
ทั้งนี้เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 5 ปีที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนจากแรงซื้อตามปัจจัยทางเทคนิค และการปรับโพสิชันก่อนการประชุม Fed วันที่ 3-4 พฤษภาคม
เงินบาทที่อ่อนค่ายังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามในระยะนี้ ขณะที่ ธปท. ระบุว่าจะติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด และพร้อมจะเข้าดูแลหากเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากเกินไป
สำหรับเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.94 บาทต่อดอลลาร์ ในวันอังคารก่อนหน้า (22 เมษายน) ขณะที่ระหว่างสัปดาห์ (25-29 เมษายน) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,494 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Inflow เข้าตลาดพันธบัตร 1,961 ล้านบาท มาจากการซื้อสุทธิพันธบัตร 2,156 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้หมดอายุ 195 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า (2-6 พฤษภาคม) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.80-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม Fed, สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, การจ้างงานภาคเอกชน, ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนเมษายน, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมีนาคม และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของไทย, ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย และดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการของจีน ยุโรป และอังกฤษ
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP